ใครๆก็แก้กฎหมายได้(คุณก็ด้วย)
Bookmark and Share

วันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ประชาสัมพันธ์โครงการสัมมนาทางวิชาการ/บรรยายพิเศษ โครงการจีนศึกษา สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา มธ.


 จาก: Chinese Studies Program asia.thammasat uni. <chinesestudies.asia.tu@gmail.com>
วันที่: 24 ตุลาคม 2553, 19:14
หัวเรื่อง: ประชาสัมพันธ์โครงการสัมมนาทางวิชาการ/บรรยายพิเศษ โครงการจีนศึกษา สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา มธ.
ถึง: 

เรียน ผู้สนใจเข้าร่วมสัมมนาทางวิชาการ / บรรยายพิเศษ 

        ขอเรียนเชิญร่วมงานสัมมนาและบรรยายพิเศษจีนศึกษา

 

      1.    สัมมนาทางวิชาการเรื่อง “เฟ่ย เสี้ยวทงกับชนบทจีนศึกษา”

          วันที่ 17 พฤศจิกายน 2553 เวลา 09.00 12.00 น.

          สถานที่ ห้องประชุมประกอบ หุตะสิงห์ ชั้น 3 อาคารเอนกประสงค์ 1  

           มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

     2.    จัดบรรยายพิเศษเรื่องนามนั้นสำคัญไฉน : ชื่อบุคคลและสถานที่ในเรื่องสามก๊ก

         วันที่ 24 พฤศจิกายน 2553 เวลา 09.00 12.00 น.

         สถานที่ ห้องประชุมบุญชู  โรจนเสถียร  ชั้น 3 อาคารเอนกประสงค์ 1   

            มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

 
นิภาพร เหมือนวงศ์
สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา มธ.
02-564-5000-3 ต่อ 117
หรือ 081-830-9610

ใบตอบรับเข้าร่วมสัมมนาทางวิชาการ / บรรยายพิเศษจีนศึกษา
…………………………………………………………………………………
……………………………………………..
ท่านสนใจเข้าร่วม 5สัมมนาวิชาการ “เฟ่ย เสี้ยวทงกับชนบทจีนศึกษา”

สังคมวิทยาชนบทจีน ”

วันพุธที่ 17 พฤศจิกายน 2553 เวลา 09.00 - 12.00. น. ณ
ห้องประชุมประกอบ หุตะสิงห์
ชั้น 3 อาคารอเนกประสงค์ 1 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
จัดโดย โครงการจีนศึกษา สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา ร่วมกับ
โครงการจัดพิมพ์คบไฟ
สมาคมสังคมวิทยาชนบทแห่งเอเชีย
และคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

และเปิดตัวแนะนำหนังสือแปล “ พื้นถิ่นแผ่นดินจีน :

5บรรยายพิเศษ “ นามนั้นสำคัญไฉน : ชื่อบุคคลและสถานที่ในเรื่องสามก๊ก ”
วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน 2553 เวลา 09.00 - 12.00 น. ณ
ห้องประชุมบุญชู  โรจนเสถียร
ชั้น 3 อาคารอเนกประสงค์ 1 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
จัดโดย โครงการจีนศึกษา สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

1. ชื่อ
ตำแหน่ง
หน่วยงาน
ที่อยู่
โทรศัพท์
มือถือ

โทรสาร
Email

2. ชื่อ
ตำแหน่ง
หน่วยงาน
ที่อยู่
โทรศัพท์

โทรสาร

Email

โปรดส่งใบตอบรับเพื่อลงทะเบียน โทรสาร 02-564-4777
อีเมล์ ChineseStudies.asia.tu@gmail.com , prasia.tu@gmail.com หรือ
สอบถามรายละเอียดได้ที่ สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา
โทร 02-564-5000-3 ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.asia.tu.ac.th/

จัดโดย โครงการจีนศึกษา สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา
ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

 




วันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วันพุธที่ 27 ตุลาคม 2553 ณ ชั้น 17 บจก.บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพฯ พาณิชย์ ถ.สุรศักดิ์

เสวนา "CSR & Global Compact ต่อวิสาหกิจ+นักวิชาชีพเพื่อธุรกิจยั่งยืน&qu

ขอ เรียนเชิญร่วมงานเสวนารายเดือนครั้งที่ 97 "CSR & Global Compact ต่อวิสาหกิจ+นักวิชาชีพเพื่อธุรกิจยั่งยืน"
วันพุธที่ 27 ตุลาคม 2553 ณ ชั้น 17 บจก.บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพฯ พาณิชย์ ถ.สุรศักดิ์

เรียน     สมาชิก SVN และผู้สนใจ

เนื่องด้วยมูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย จะจัดงานเสวนาวิชาการครั้งที่ 97 ในหัวข้อดังกล่าวข้างต้น จึงทำหนังสือนี้มาเรียนเชิญท่านเข้าร่วมงานในฐานะแขกรับเชิญ (ไม่เสียค่าใช้จ่าย) โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้:  

กำหนดการ   
12:30 ลงทะเบียน
13:00 เปิดการเสวนาและแสดงปาฐกถา “CSR สำหรับวิสาหกิจยุคใหม่: แนวโน้มระดับโลก”  ศาสตราภิชาน กิตติ พัฒนพงศ์พิบูล ประธานกรรมการอำนวยการ มูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย
13:45 CSR ที่แท้ และบทบาทของ UN Global Compact ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร มูลนิธิฯ และผู้แทน UN Global Compact ในประเทศไทย  
14:45 กรณีศึกษา CSR ที่ทำได้จริง บจก.บริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ คุณสุเมธ มณีวัฒนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บจก.บริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ (บสก.)  
15:15 พัก-รับประทานเครื่องดื่ม เครื่องเคียง
15:30 การอภิปราย “CSR ทำได้ทั้งระดับบริษัทข้ามชาติ บริษัทขนาดใหญ่ และ SMEs”

ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ นักวิชาการอาวุโส ศูนย์ศึกษาธุรกิจและรัฐบาล
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ อาจารย์ภาควิชาการธนาคารและการเงิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
คุณกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานชมรมจรรยาบรรณ หอการค้าไทย
คุณกนก อภิรดี Chairman-Corporate Stategic Committee Green tremd Co.,LTD (Property & Funding)
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร มูลนิธิฯ และผู้แทน UN Global Compact ในประเทศไทย  

17:00 ปิดการเสวนา (วิทยากรอยู่ระหว่างเรียนเชิญ)
  
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา และโปรดแจ้งตอบรับคำเชิญกลับทางโทรสาร (02.295.1154) โทร.0.2295.3171 คุณปิยะดา หรือ
Email: info@thaiappraisal.org ภายในวันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม ศกนี้ จะเป็นพระคุณยิ่ง

 

วันพุธที่ 27 ตุลาคม 2553 ณ โรงแรมบางกอกเซ็นเตอร์ ถนนพระราม 4 เวลา 09.00 - 16.00 น.

สำนักงานส่งเสริมเอสเอ็มอี (สสว.) ร่วมมือ สมาคมชาวโบ๊เบ๊ โดยกลุ่มผู้ประกอบการ Street Fashion ผนึกกำลังบุกตลาดส่งออก หวังผลักดันอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยก้าวไกลระดับโลก จัดกิจกรรมอบรม “โครงการกิจกรรมย่อยสนับสนุนเงินทุนผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม” เพื่อแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ โดยมีคุณคมสรรค์ วิจิตรวิกรม ประธาน Street Fashion Runway มาร่วมเล่าประสบการณ์แห่งความสำเร็จครั้งนี้ด้วย สำหรับผู้ประกอบการและผู้สนใจเข้าร่วมโครงการในปี 2554 จำนวน 100 คน ในวันพุธที่ 27 ตุลาคม 2553 ณ โรงแรมบางกอกเซ็นเตอร์ ถนนพระราม 4 เวลา 09.00 – 16.00 น. สำหรับผู้สนใจสำรองที่นั่งหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 089-452-3211 

 

วันเสาร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วันพุธที่ 27 ตุลาคมนี้ เวลา 08.30 - 12.00 น. ณ โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทารา แกรนด์ ลาดพร้าว

สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ จัดสัมมนา "ความเสี่ยงเศรษฐกิจไทยกับการเติบโตของ จีดีพี ปี 54"
สมาคม ผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ จัดสัมมนา "ความเสี่ยงเศรษฐกิจไทยกับการเติบโตของ จีดีพี ปี 54" วันพุธที่ 27 ตุลาคมนี้ เวลา 08.30 - 12.00 น. ณ โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทารา แกรนด์ ลาดพร้าว โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "ความเสี่ยงเศรษฐกิจไทยกับการรับมือของรัฐบาล" ส่วนผู้ร่วมสัมมนา "ความเสี่ยงเศรษฐกิจไทยกับการเติบโตของ จีดีพี ปี 54" ประกอบด้วย หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย และนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล รองประธานคณะกรรมการการบริหารการเงินและกรรมการการลงทุนเครือเจริญโภคภัณฑ์ ดำเนินรายการโดย วีระ ธีระภัทรานนท์ จึงขอเชิญชวนผู้สนใจและประชาชนทั่วไป เข้าร่วมงานสัมมนาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

 
ข้อมูลข่าวและที่มา

ผู้สื่อข่าว : ฑีฆะสุดา ภักดี   Rewriter : คณิต จินดาวรรณ
สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th



 วันที่ข่าว : 23 ตุลาคม 2553


วันพุธที่ 27 ตุลาคม นี้ เวลา 08.00 - 16.30 น.ณ โรงแรมบ้านทิพย์สวนทอง รีสอร์ท จังหวัดสมุทรสงคราม

 

 

กมธ.วุฒิสภา ลงพื้นที่ จัดสัมมนาเรื่อง การบังคับใช้กฎหมายกับการจัดการสิ่งแวดล้อม

21 ต.ค. 53        ประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา เผย ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสภาทนายความ จัดสัมมนา เรื่อง การบังคับใช้กฎหมายกับการจัดการสิ่งแวดล้อมหวัง เผยแพร่ความรู้ทางกฎหมายสิ่งแวดล้อมแก่สมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน ผู้นำชุมชนและเจ้าพนักงานของรัฐ ณ จังหวัดสมุทรสงคราม 27 ต.ค นี้

        นายสุรชัย  เลี้ยงบุญเลิศชัย ประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา กล่าวว่าวันพุธที่ 27 ตุลาคม นี้ เวลา 08.00 16.30 น. กมธ.จะร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสภาทนายความ จัดสัมมนาการมีส่วนร่วมของประชาชน เรื่อง การบังคับใช้กฎหมายกับการจัดการสิ่งแวดล้อมณ โรงแรมบ้านทิพย์สวนทอง รีสอร์ท จังหวัดสมุทรสงคราม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมายสิ่งแวดล้อมแก่สมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน ผู้นำชุมชนและเจ้าพนักงานของรัฐ และเพื่อส่งเสริมให้เกิดกระบวนการพัฒนาการส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดการ การรักษา การแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมภายในชุมชนหรือท้องถิ่นของตนเอง ตลอดจนกระตุ้นให้เกิดแนวความคิดเชิงป้องกัน การแก้ไขปัญหาและรวมทั้งการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทโดยสันติ

นายสุรชัย กล่าวด้วยว่า ในการสัมมนาดังกล่าวตนจะปาฐกถาพิเศษเรื่อง มาตรการทางสังคมกับการจัดการสิ่งแวดล้อม จากนั้น จะเป็นการอภิปรายเรื่อง ปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม โดยนายปรีชา  เจี๊ยบหยู โครงการอนุรักษ์ชุมชนบ้านลมทวน นายวิสูตร  นวมศิริ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 10 ตำบลบางแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม นายปัญญา  โตกทอง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลแพรกหนามแดง นายสุภัทร  ผลอินหอม กำนันตำบลวัดประดู่ และนาสาวกานดา  พาเจริญ เครือข่ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรสงคราม

 

 

 

 

 

                                                                อัญชิสา  จ่าภา    ผู้สื่อข่าว

                                                        มันทนา  ศรีเพ็ญประภา        เรียบเรียง



 



วันพุธที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ขาดรูปใบเดียว อดสอบแพทย์


จาก: lee lee <thai9lee@gmail.com>
วันที่: 20 ตุลาคม 2553, 21:18
หัวเรื่อง: ขาดรูปใบเดียว อดสอบแพทย์
ถึง: 
 
 

เรียนท่านที่รักบ้านเมือง และสื่อมวลชน จดหมายจากคุณอำนวย            สุนทรโชติ

 
                         ชมรมค่านิยมเพื่อสร้างชาติ

                                                                                                  87/2 ถ.ศุขประยูร ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา

                                                                            20  ตุลาคม 53

เรื่อง              ขอชี้แจงกรณีน.ส.ศรัญญา ไม่มีสิทธิ์เข้าสอบและข้อเสนอเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในปีต่อๆไป

กราบเรียน    ศ.พญ.บุญมี  สถาปัตยวงศ์ ประธานคณะอนุกรรมการจัดสอบของกสพท.

                   ตามที่ท่านได้ให้ข่าวที่ปรากฎบนหน้าหนังสือพิมพ์ในวันที่ 20 ตุลาคม 53 กรณีที่กสพท.ตัดสิทธิ์น.ส.ศรัญญา จันนามวงค์ไม่ให้เข้าสอบนั้น ผมเห็นว่าท่านยังทราบข้อเท็จจริงคลาดเคลื่อนและการที่ท่านยืนยันว่ากรณีนี้เกิดขึ้นทุกปีนั้นแสดงให้เห็นว่าระบบยังมีปัญหาอยู่ผมจึงขอเสนอแนะวิธีการแก้ปัญหาแบบถาวรเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับนักเรียนในรุ่นต่อๆไปดังนี้

                     1.ตามที่ท่านให้ข่าวว่าทางอนุกรรมการได้ช่วยเหลือโดยเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ส่งเอกสารเพิ่มเติมจากเดิมภายในวันที่ 3 กย.53 เป็น 1 ตค.53 แต่นักเรียนไม่ติดตามข่าวทางเว็บไซต์ของกสพท.เองนั้น ผมคิดว่าแนวคิดและการกระทำดังกล่าวยังไม่ถูกต้องเพราะตามประกาศฉบับแรกซึ่งถือเป็นฉบับหลักของกสพท.ที่นักเรียนทุกคนยึดถือนั้นระบุเพียงว่า “ให้ผู้สมัครสอบทุกคนตรวจสอบสถานภาพการสมัคร โดยคลิกที่ link ตรวจสอบสถานภาพการสมัครสอบและสถานที่สอบที่เว็บไซต์ www.9.si.mahidol.ac.th” เท่านั้นในข้อความดังกล่าวข้างต้นไม่ได้ระบุว่าจะต้องเข้าตรวจสอบภายในเมื่อใดฉะนั้นนักเรียนก็สามารถเข้าตรวจสอบเมื่อไรก็ได้ตราบใดที่เป็นการตรวจสอบก่อนการสอบ ฉะนั้นการที่น.ส.ศรัญญาได้เข้าตรวจสอบในวันที่ 15 ตค.53 ซึ่งเป็นระยะเวลา 15 วันก่อนการสอบจึงเป็นเรื่องสมเหตุสมผลแล้ว ประกอบกับข้อความใช้คำว่า “สถานที่สอบ” ทำให้นักเรียนเข้าใจว่าการตรวจสอบจะเป็นการตรวจสอบว่าจะได้สอบในสถานที่ใดเหมือนกับของสทศ.ดังนั้นนักเรียนส่วนใหญ่จึงเข้าใจว่าเป็นการตรวจสอบสถานที่สอบซึ่งจะทำกันเมื่อใกล้การสอบจะมาถึง และผมขอยืนยันท่านว่านักเรียนส่วนใหญ่ที่สมัครสอบกับกสพท.นั้นคิดเข่นนี้และ ณ เวลานี้ก็ยังไม่ได้เข้าไปตรวจดังกล่าวเลย ฉะนั้นการเข้าใจประเด็นนี้ของน.ส.ศรัญญาจึงไม่ได้เกิดจากการตีความผิดของน.ส.ศรัญญาแต่เป็นการเขียนระเบียบไม่ชัดเจนของกสพท.เอง ประกอบกับตารางเวลารับสมัครที่อยู่ในประกาศก็ไม่มีข้อกำหนดว่าให้เข้าไปตรวจสอบได้ภายในเมื่อใดหรือหมดเขตการอุทธรณ์ปัญหาต่างๆเมื่อใดฉะนั้นนักเรียนจึงไม่ได้เข้าใจผิดหรือประมาทแต่อย่างใด

                      และการที่ท่านกล่าวว่า “นักเรียนไม่ติดตามข่าวสารทางเว็บไซต์ของกสพท.เอง” นั้นผมคิดว่าท่านนั้นมีสมมติฐานที่ผิดอย่างมากต่อนักเรียนและวิธีการรับสมัครระดับชาติ เพราะสิ่งที่ถูกต้องนั้นท่านจะต้องเขียนประกาศให้ครบและชัดเจนตั้งแต่ประกาศฉบับแรกที่ถือเป็นประกาศฉบับหลัก เพราะนักเรียนทุกคนจะยึดถือประกาศฉบับนี้เท่านั้น การมีประกาศใดๆเพิ่มเติมขึ้นมาในภายหลังนั้นมีความเสี่ยงอย่างมากที่นักเรียนทุกคนจะไม่รับทราบประกาศเพิ่มเติมดังกล่าวและจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างที่กิดขึ้น ซึ่งท่านก็ได้ยืนยันว่ามีเกิดขึ้นทุกปี และการที่ท่านตั้งสมมติฐานว่านักเรียนทุกคนจะต้องเข้าอ่านประกาศทางเว็บไซต์ของกสพท.อยู่เรื่อยๆหลังจากการสมัครและหลังจากการประกาศฉบับแรกแล้วนั้น เป็นสมมติฐานที่สร้างภาระให้กับนักเรียนเป็นอย่างมาก เพราะปัจจุบันนักเรียนทุกคนนั้นมีภาระกิจมากอยู่แล้วทั้งการเรียนและการสอบการจะต้องบังคับให้นักเรียนที่สมัครไปแล้วจ่ายเงินและส่งเอกสารไปเรียบร้อยแล้วต้องมานั่งคอยระวังว่ากสพท.จะมีประกาศเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงอะไรอีกนั้นถือเป็นเรื่องที่สร้างภาระให้กับนักเรียนมากเกินไปและไม่ควรทำอย่างยิ่ง ยิ่งประเทศไทยมีปัญเรื่องการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตโดยเฉพาะในชนบทที่ห่างไกลนั้นการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง

                      ฉะนั้นการที่ท่านอ้างว่าท่านได้ยืดระยะเวลาส่งเอกสารออกไปโดยการประกาศทางเว็บไซต์เพิ่มเติมนั้นไม่ถือได้ว่าเป็นการแก้ปัญหาเพราะนักเรียนที่มีปัญหาจะไม่รับทราบประกาศดังกล่าว

                      2.ผมมีคำถามว่าทำไมการที่เจ้าหน้าที่ของกสพท.ทราบว่ามีนักเรียนไม่ว่ากี่คนก็ตามได้สมัครสอบและจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว แต่ขาดเอกสารแค่บางอย่างนั้น แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่านักเรียนคนนั้นสนใจที่จะเข้าสอบจริงๆ แต่การรับสมัครทางอินเตอร์เน็ตและการส่งเอกสารทางไปรษณีย์นั้นเป็นการสื่อสารทางเดียว นักเรียนอาจจะสมัครแต่ระบบไม่รับก็ได้ นักเรียนอาจจะจ่ายเงินแต่ท่านไม่ได้รับก็ได้ และนักเรียนอาจจะส่งเอกสารไปครบแต่ท่านได้รับไม่ครบก็ได้ ประกอบกับในใบสมัครนั้นท่านก็มีทั้งเบอร์โทร.ของนักเรียน เบอร์โทรของผู้ปกครอง ที่อยู่ของนักเรียน และอีเมล์ของนักเรียนทำไมท่านไม่เมตตาโทรหรือส่งจดหมายหรืออีเมล์ไปแจ้งนักเรียนที่มีปัญหานั้นซึ่งทำได้ง่ายมากและปัญหาจะจบ ซึ่งจำนวนนักเรียนที่มีปัญหาก็ไม่ควรจะมากจนท่านไม่สมารถติดต่อกลับไปได้ แต่ถ้าท่านจะอ้างว่าจำนวนนักเรียนที่มีปัญหานั้นมีจำนวนมากจนไม่สามารถติดต่อรายบุคคลได้นั้นก็จะแสดงให้เห็นว่าระบบการรับสมัครของท่านนั้นมีปัญหาจริงๆไม่เช่นนั้นคงไม่มีปัญจำนวนมากซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นท่านก็ควรปรับเปลี่ยนวิธีการรับสมัครให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ประกอบกับค่าสมัครสอบจำนวน 1200 บาทนั้นเมื่อเทียบกับการสอบ GAT/PAT แล้วถือว่าเป็นค่าสมัครที่แพงกว่าของ GAT/PAT เพราะการสอบ  GAT/PAT จะเสียค่าสมัครวิชาละ 150 บาทเท่านั้นซึ่งถ้าเป็นการสอบ 5 วิชาของกสพท.ก็ควรเสียค่าสมัครแค่ 750 บาทเท่านั้น และเมื่อการสอบ GAT/PAT ของสทศ.เก็บค่าสมัคร 750 บาทแล้วยังมีกำไรก็แสดงว่าการของของกสพท.น่าที่จะต้องมีกำไรเป็นเท่าทวี และยิ่งไปกว่านั้นการสอบ GAT/PAT ของสทศ.นั้นไปดำเนินการสอบที่ศูนย์สอบในทุกจังหวัดทำให้ยิ่งต้องมีค่าใช้จ่ายมากแต่ยังมีกำไร แต่การสอบของท่านกระทำในศูนย์สอบไม่กี่แห่งก็ยิ่งต้องมีกำไรมากขึ้นไปอีก แล้วเมื่อท่านมีกำไรจำนวนมากทำไมท่านไม่จัดงบประมาณส่วนหนึ่งมาใช้แก้ปํญหาต่างๆที่เกิดขึ้น เช่นการติดต่อกับนักเรียนที่มีปัญหาทางโทรศัพท์หรือทางจดหมายซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายไม่มากเลยเมื่อเทียบกับกำไรที่ท่านได้รับ

                3.การที่ท่านกล่าวว่าการที่จะให้น.ส.ศรัญญาได้เข้าสอบนั้น “จะไม่ยุติธรรมกับคนอื่นๆ”นั้นผมไม่เข้าใจว่าการอนุญาตให้นักเรียนที่สมัครและจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วได้เข้าสอบนั้นมันไม่ยุติธรรมกับคนอื่นอย่างไร ถ้าท่านจะหมายความว่าท่านก็ถือปฏิบัติเช่นนี้กับนักเรียนจำนวนมากที่มีปัญหาจนนักเรียนเหล่านั้นไม่สามารถเข้าสอบได้แล้ว ก็ต้องถือเป็นเรื่องที่น่าตื่นตระหนกว่าท่านได้สร้างระบบและกติกาที่ส่งผลให้นักเรียนจำนวนมากไม่ได้เข้าสอบและเป็นเช่นนี้มาหลายปีแล้ว ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงท่านควรกลับไปแก้ไขที่ระบบไม่ใช่โยนบาปไปให้นักเรียน โดยหลักการการสร้างกติกาสาธารณะแล้วการสร้างระบบหรือกติกาใดๆจะต้องยึดหลักว่าคนที่อ่อนแอที่สุดในสังคมจะต้องได้รับความสะดวกจากระบบนั้นได้ ไม่ใช่คิดแค่เพียงว่าถ้ามีคนจำนวนมากปฏิบัติได้ก็ถือได้ว่าเป็นระบบที่ยุติธรรมแล้ว

                 ผมขอยืนยันกับท่านว่าการสอบเข้ามหาวิทยาลัยนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดเรื่องหนึ่งในชีวิตของคนคนหนึ่ง เมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้นก็จะเป็นรอยบาปที่ติดตัวเขาไปตลอดชีวิต ซึ่งประเด็นนี้ยิ่งเมื่อได้เกิดขึ้นกับใครด้วยตนเองหรือเกิดกับลูกหลานของเขาเขาก็จะเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความเจ็บปวดดังกล่าว ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับนักเรียนในปีถัดๆไป ผมจึงขอเสนอวิธีการแก้ปัญหาดังนี้

                 ก. กำหนดกติกาให้ชัดเจนว่านักเรียนแต่ละคนจะต้องทำอะไรเมื่อไร และต้องไม่เปลี่ยนแปลงกติกาอีก เพื่อนักเรียนจะได้ไม่ต้องคอยระวังที่จะต้องเข้าเช็คเว็บไซต์เป็นระยะๆเพราะกลัวว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงกติกา

                 ข. ถ้าท่านยังยืนยันที่จะใช้ระบบการรับสมัครแบบการสื่อสารทางเดียวแบบนี้ ควรแบ่งกำไรจำนวนหนึ่งมาเป็นค่าใช้จ่ายในการติดต่อกับนักเรียนที่มีปัญหา

                 และสุดท้ายนี้ผมขอเรียนให้ท่านทราบว่าขณะนี้อนาคตของนักเรียนจำนวนหนึ่งกำลังขึ้นอยู่กับความเมตตาของท่าน เพียงแค่ท่านยอมลำบากในการแก้ไขเอกสารเพียงเล็กน้อยก็จะทำให้พวกเขาเหล่านั้นได้มีอนาคตที่สวยงามต่อไป

                                                              อำนวย      สุนทรโชติ

                                                                 โทร.0865676052








ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก