ใครๆก็แก้กฎหมายได้(คุณก็ด้วย)
Bookmark and Share

วันพุธที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ขาดรูปใบเดียว อดสอบแพทย์


จาก: lee lee <thai9lee@gmail.com>
วันที่: 20 ตุลาคม 2553, 21:18
หัวเรื่อง: ขาดรูปใบเดียว อดสอบแพทย์
ถึง: 
 
 

เรียนท่านที่รักบ้านเมือง และสื่อมวลชน จดหมายจากคุณอำนวย            สุนทรโชติ

 
                         ชมรมค่านิยมเพื่อสร้างชาติ

                                                                                                  87/2 ถ.ศุขประยูร ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา

                                                                            20  ตุลาคม 53

เรื่อง              ขอชี้แจงกรณีน.ส.ศรัญญา ไม่มีสิทธิ์เข้าสอบและข้อเสนอเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในปีต่อๆไป

กราบเรียน    ศ.พญ.บุญมี  สถาปัตยวงศ์ ประธานคณะอนุกรรมการจัดสอบของกสพท.

                   ตามที่ท่านได้ให้ข่าวที่ปรากฎบนหน้าหนังสือพิมพ์ในวันที่ 20 ตุลาคม 53 กรณีที่กสพท.ตัดสิทธิ์น.ส.ศรัญญา จันนามวงค์ไม่ให้เข้าสอบนั้น ผมเห็นว่าท่านยังทราบข้อเท็จจริงคลาดเคลื่อนและการที่ท่านยืนยันว่ากรณีนี้เกิดขึ้นทุกปีนั้นแสดงให้เห็นว่าระบบยังมีปัญหาอยู่ผมจึงขอเสนอแนะวิธีการแก้ปัญหาแบบถาวรเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับนักเรียนในรุ่นต่อๆไปดังนี้

                     1.ตามที่ท่านให้ข่าวว่าทางอนุกรรมการได้ช่วยเหลือโดยเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ส่งเอกสารเพิ่มเติมจากเดิมภายในวันที่ 3 กย.53 เป็น 1 ตค.53 แต่นักเรียนไม่ติดตามข่าวทางเว็บไซต์ของกสพท.เองนั้น ผมคิดว่าแนวคิดและการกระทำดังกล่าวยังไม่ถูกต้องเพราะตามประกาศฉบับแรกซึ่งถือเป็นฉบับหลักของกสพท.ที่นักเรียนทุกคนยึดถือนั้นระบุเพียงว่า “ให้ผู้สมัครสอบทุกคนตรวจสอบสถานภาพการสมัคร โดยคลิกที่ link ตรวจสอบสถานภาพการสมัครสอบและสถานที่สอบที่เว็บไซต์ www.9.si.mahidol.ac.th” เท่านั้นในข้อความดังกล่าวข้างต้นไม่ได้ระบุว่าจะต้องเข้าตรวจสอบภายในเมื่อใดฉะนั้นนักเรียนก็สามารถเข้าตรวจสอบเมื่อไรก็ได้ตราบใดที่เป็นการตรวจสอบก่อนการสอบ ฉะนั้นการที่น.ส.ศรัญญาได้เข้าตรวจสอบในวันที่ 15 ตค.53 ซึ่งเป็นระยะเวลา 15 วันก่อนการสอบจึงเป็นเรื่องสมเหตุสมผลแล้ว ประกอบกับข้อความใช้คำว่า “สถานที่สอบ” ทำให้นักเรียนเข้าใจว่าการตรวจสอบจะเป็นการตรวจสอบว่าจะได้สอบในสถานที่ใดเหมือนกับของสทศ.ดังนั้นนักเรียนส่วนใหญ่จึงเข้าใจว่าเป็นการตรวจสอบสถานที่สอบซึ่งจะทำกันเมื่อใกล้การสอบจะมาถึง และผมขอยืนยันท่านว่านักเรียนส่วนใหญ่ที่สมัครสอบกับกสพท.นั้นคิดเข่นนี้และ ณ เวลานี้ก็ยังไม่ได้เข้าไปตรวจดังกล่าวเลย ฉะนั้นการเข้าใจประเด็นนี้ของน.ส.ศรัญญาจึงไม่ได้เกิดจากการตีความผิดของน.ส.ศรัญญาแต่เป็นการเขียนระเบียบไม่ชัดเจนของกสพท.เอง ประกอบกับตารางเวลารับสมัครที่อยู่ในประกาศก็ไม่มีข้อกำหนดว่าให้เข้าไปตรวจสอบได้ภายในเมื่อใดหรือหมดเขตการอุทธรณ์ปัญหาต่างๆเมื่อใดฉะนั้นนักเรียนจึงไม่ได้เข้าใจผิดหรือประมาทแต่อย่างใด

                      และการที่ท่านกล่าวว่า “นักเรียนไม่ติดตามข่าวสารทางเว็บไซต์ของกสพท.เอง” นั้นผมคิดว่าท่านนั้นมีสมมติฐานที่ผิดอย่างมากต่อนักเรียนและวิธีการรับสมัครระดับชาติ เพราะสิ่งที่ถูกต้องนั้นท่านจะต้องเขียนประกาศให้ครบและชัดเจนตั้งแต่ประกาศฉบับแรกที่ถือเป็นประกาศฉบับหลัก เพราะนักเรียนทุกคนจะยึดถือประกาศฉบับนี้เท่านั้น การมีประกาศใดๆเพิ่มเติมขึ้นมาในภายหลังนั้นมีความเสี่ยงอย่างมากที่นักเรียนทุกคนจะไม่รับทราบประกาศเพิ่มเติมดังกล่าวและจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างที่กิดขึ้น ซึ่งท่านก็ได้ยืนยันว่ามีเกิดขึ้นทุกปี และการที่ท่านตั้งสมมติฐานว่านักเรียนทุกคนจะต้องเข้าอ่านประกาศทางเว็บไซต์ของกสพท.อยู่เรื่อยๆหลังจากการสมัครและหลังจากการประกาศฉบับแรกแล้วนั้น เป็นสมมติฐานที่สร้างภาระให้กับนักเรียนเป็นอย่างมาก เพราะปัจจุบันนักเรียนทุกคนนั้นมีภาระกิจมากอยู่แล้วทั้งการเรียนและการสอบการจะต้องบังคับให้นักเรียนที่สมัครไปแล้วจ่ายเงินและส่งเอกสารไปเรียบร้อยแล้วต้องมานั่งคอยระวังว่ากสพท.จะมีประกาศเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงอะไรอีกนั้นถือเป็นเรื่องที่สร้างภาระให้กับนักเรียนมากเกินไปและไม่ควรทำอย่างยิ่ง ยิ่งประเทศไทยมีปัญเรื่องการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตโดยเฉพาะในชนบทที่ห่างไกลนั้นการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง

                      ฉะนั้นการที่ท่านอ้างว่าท่านได้ยืดระยะเวลาส่งเอกสารออกไปโดยการประกาศทางเว็บไซต์เพิ่มเติมนั้นไม่ถือได้ว่าเป็นการแก้ปัญหาเพราะนักเรียนที่มีปัญหาจะไม่รับทราบประกาศดังกล่าว

                      2.ผมมีคำถามว่าทำไมการที่เจ้าหน้าที่ของกสพท.ทราบว่ามีนักเรียนไม่ว่ากี่คนก็ตามได้สมัครสอบและจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว แต่ขาดเอกสารแค่บางอย่างนั้น แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่านักเรียนคนนั้นสนใจที่จะเข้าสอบจริงๆ แต่การรับสมัครทางอินเตอร์เน็ตและการส่งเอกสารทางไปรษณีย์นั้นเป็นการสื่อสารทางเดียว นักเรียนอาจจะสมัครแต่ระบบไม่รับก็ได้ นักเรียนอาจจะจ่ายเงินแต่ท่านไม่ได้รับก็ได้ และนักเรียนอาจจะส่งเอกสารไปครบแต่ท่านได้รับไม่ครบก็ได้ ประกอบกับในใบสมัครนั้นท่านก็มีทั้งเบอร์โทร.ของนักเรียน เบอร์โทรของผู้ปกครอง ที่อยู่ของนักเรียน และอีเมล์ของนักเรียนทำไมท่านไม่เมตตาโทรหรือส่งจดหมายหรืออีเมล์ไปแจ้งนักเรียนที่มีปัญหานั้นซึ่งทำได้ง่ายมากและปัญหาจะจบ ซึ่งจำนวนนักเรียนที่มีปัญหาก็ไม่ควรจะมากจนท่านไม่สมารถติดต่อกลับไปได้ แต่ถ้าท่านจะอ้างว่าจำนวนนักเรียนที่มีปัญหานั้นมีจำนวนมากจนไม่สามารถติดต่อรายบุคคลได้นั้นก็จะแสดงให้เห็นว่าระบบการรับสมัครของท่านนั้นมีปัญหาจริงๆไม่เช่นนั้นคงไม่มีปัญจำนวนมากซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นท่านก็ควรปรับเปลี่ยนวิธีการรับสมัครให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ประกอบกับค่าสมัครสอบจำนวน 1200 บาทนั้นเมื่อเทียบกับการสอบ GAT/PAT แล้วถือว่าเป็นค่าสมัครที่แพงกว่าของ GAT/PAT เพราะการสอบ  GAT/PAT จะเสียค่าสมัครวิชาละ 150 บาทเท่านั้นซึ่งถ้าเป็นการสอบ 5 วิชาของกสพท.ก็ควรเสียค่าสมัครแค่ 750 บาทเท่านั้น และเมื่อการสอบ GAT/PAT ของสทศ.เก็บค่าสมัคร 750 บาทแล้วยังมีกำไรก็แสดงว่าการของของกสพท.น่าที่จะต้องมีกำไรเป็นเท่าทวี และยิ่งไปกว่านั้นการสอบ GAT/PAT ของสทศ.นั้นไปดำเนินการสอบที่ศูนย์สอบในทุกจังหวัดทำให้ยิ่งต้องมีค่าใช้จ่ายมากแต่ยังมีกำไร แต่การสอบของท่านกระทำในศูนย์สอบไม่กี่แห่งก็ยิ่งต้องมีกำไรมากขึ้นไปอีก แล้วเมื่อท่านมีกำไรจำนวนมากทำไมท่านไม่จัดงบประมาณส่วนหนึ่งมาใช้แก้ปํญหาต่างๆที่เกิดขึ้น เช่นการติดต่อกับนักเรียนที่มีปัญหาทางโทรศัพท์หรือทางจดหมายซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายไม่มากเลยเมื่อเทียบกับกำไรที่ท่านได้รับ

                3.การที่ท่านกล่าวว่าการที่จะให้น.ส.ศรัญญาได้เข้าสอบนั้น “จะไม่ยุติธรรมกับคนอื่นๆ”นั้นผมไม่เข้าใจว่าการอนุญาตให้นักเรียนที่สมัครและจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วได้เข้าสอบนั้นมันไม่ยุติธรรมกับคนอื่นอย่างไร ถ้าท่านจะหมายความว่าท่านก็ถือปฏิบัติเช่นนี้กับนักเรียนจำนวนมากที่มีปัญหาจนนักเรียนเหล่านั้นไม่สามารถเข้าสอบได้แล้ว ก็ต้องถือเป็นเรื่องที่น่าตื่นตระหนกว่าท่านได้สร้างระบบและกติกาที่ส่งผลให้นักเรียนจำนวนมากไม่ได้เข้าสอบและเป็นเช่นนี้มาหลายปีแล้ว ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงท่านควรกลับไปแก้ไขที่ระบบไม่ใช่โยนบาปไปให้นักเรียน โดยหลักการการสร้างกติกาสาธารณะแล้วการสร้างระบบหรือกติกาใดๆจะต้องยึดหลักว่าคนที่อ่อนแอที่สุดในสังคมจะต้องได้รับความสะดวกจากระบบนั้นได้ ไม่ใช่คิดแค่เพียงว่าถ้ามีคนจำนวนมากปฏิบัติได้ก็ถือได้ว่าเป็นระบบที่ยุติธรรมแล้ว

                 ผมขอยืนยันกับท่านว่าการสอบเข้ามหาวิทยาลัยนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดเรื่องหนึ่งในชีวิตของคนคนหนึ่ง เมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้นก็จะเป็นรอยบาปที่ติดตัวเขาไปตลอดชีวิต ซึ่งประเด็นนี้ยิ่งเมื่อได้เกิดขึ้นกับใครด้วยตนเองหรือเกิดกับลูกหลานของเขาเขาก็จะเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความเจ็บปวดดังกล่าว ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับนักเรียนในปีถัดๆไป ผมจึงขอเสนอวิธีการแก้ปัญหาดังนี้

                 ก. กำหนดกติกาให้ชัดเจนว่านักเรียนแต่ละคนจะต้องทำอะไรเมื่อไร และต้องไม่เปลี่ยนแปลงกติกาอีก เพื่อนักเรียนจะได้ไม่ต้องคอยระวังที่จะต้องเข้าเช็คเว็บไซต์เป็นระยะๆเพราะกลัวว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงกติกา

                 ข. ถ้าท่านยังยืนยันที่จะใช้ระบบการรับสมัครแบบการสื่อสารทางเดียวแบบนี้ ควรแบ่งกำไรจำนวนหนึ่งมาเป็นค่าใช้จ่ายในการติดต่อกับนักเรียนที่มีปัญหา

                 และสุดท้ายนี้ผมขอเรียนให้ท่านทราบว่าขณะนี้อนาคตของนักเรียนจำนวนหนึ่งกำลังขึ้นอยู่กับความเมตตาของท่าน เพียงแค่ท่านยอมลำบากในการแก้ไขเอกสารเพียงเล็กน้อยก็จะทำให้พวกเขาเหล่านั้นได้มีอนาคตที่สวยงามต่อไป

                                                              อำนวย      สุนทรโชติ

                                                                 โทร.0865676052








1 ความคิดเห็น:

ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก