ใครๆก็แก้กฎหมายได้(คุณก็ด้วย)
Bookmark and Share

วันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ประชาสัมพันธ์โครงการสัมมนาทางวิชาการ/บรรยายพิเศษ โครงการจีนศึกษา สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา มธ.


 จาก: Chinese Studies Program asia.thammasat uni. <chinesestudies.asia.tu@gmail.com>
วันที่: 24 ตุลาคม 2553, 19:14
หัวเรื่อง: ประชาสัมพันธ์โครงการสัมมนาทางวิชาการ/บรรยายพิเศษ โครงการจีนศึกษา สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา มธ.
ถึง: 

เรียน ผู้สนใจเข้าร่วมสัมมนาทางวิชาการ / บรรยายพิเศษ 

        ขอเรียนเชิญร่วมงานสัมมนาและบรรยายพิเศษจีนศึกษา

 

      1.    สัมมนาทางวิชาการเรื่อง “เฟ่ย เสี้ยวทงกับชนบทจีนศึกษา”

          วันที่ 17 พฤศจิกายน 2553 เวลา 09.00 12.00 น.

          สถานที่ ห้องประชุมประกอบ หุตะสิงห์ ชั้น 3 อาคารเอนกประสงค์ 1  

           มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

     2.    จัดบรรยายพิเศษเรื่องนามนั้นสำคัญไฉน : ชื่อบุคคลและสถานที่ในเรื่องสามก๊ก

         วันที่ 24 พฤศจิกายน 2553 เวลา 09.00 12.00 น.

         สถานที่ ห้องประชุมบุญชู  โรจนเสถียร  ชั้น 3 อาคารเอนกประสงค์ 1   

            มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

 
นิภาพร เหมือนวงศ์
สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา มธ.
02-564-5000-3 ต่อ 117
หรือ 081-830-9610

ใบตอบรับเข้าร่วมสัมมนาทางวิชาการ / บรรยายพิเศษจีนศึกษา
…………………………………………………………………………………
……………………………………………..
ท่านสนใจเข้าร่วม 5สัมมนาวิชาการ “เฟ่ย เสี้ยวทงกับชนบทจีนศึกษา”

สังคมวิทยาชนบทจีน ”

วันพุธที่ 17 พฤศจิกายน 2553 เวลา 09.00 - 12.00. น. ณ
ห้องประชุมประกอบ หุตะสิงห์
ชั้น 3 อาคารอเนกประสงค์ 1 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
จัดโดย โครงการจีนศึกษา สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา ร่วมกับ
โครงการจัดพิมพ์คบไฟ
สมาคมสังคมวิทยาชนบทแห่งเอเชีย
และคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

และเปิดตัวแนะนำหนังสือแปล “ พื้นถิ่นแผ่นดินจีน :

5บรรยายพิเศษ “ นามนั้นสำคัญไฉน : ชื่อบุคคลและสถานที่ในเรื่องสามก๊ก ”
วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน 2553 เวลา 09.00 - 12.00 น. ณ
ห้องประชุมบุญชู  โรจนเสถียร
ชั้น 3 อาคารอเนกประสงค์ 1 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
จัดโดย โครงการจีนศึกษา สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

1. ชื่อ
ตำแหน่ง
หน่วยงาน
ที่อยู่
โทรศัพท์
มือถือ

โทรสาร
Email

2. ชื่อ
ตำแหน่ง
หน่วยงาน
ที่อยู่
โทรศัพท์

โทรสาร

Email

โปรดส่งใบตอบรับเพื่อลงทะเบียน โทรสาร 02-564-4777
อีเมล์ ChineseStudies.asia.tu@gmail.com , prasia.tu@gmail.com หรือ
สอบถามรายละเอียดได้ที่ สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา
โทร 02-564-5000-3 ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.asia.tu.ac.th/

จัดโดย โครงการจีนศึกษา สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา
ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

 




วันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วันพุธที่ 27 ตุลาคม 2553 ณ ชั้น 17 บจก.บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพฯ พาณิชย์ ถ.สุรศักดิ์

เสวนา "CSR & Global Compact ต่อวิสาหกิจ+นักวิชาชีพเพื่อธุรกิจยั่งยืน&qu

ขอ เรียนเชิญร่วมงานเสวนารายเดือนครั้งที่ 97 "CSR & Global Compact ต่อวิสาหกิจ+นักวิชาชีพเพื่อธุรกิจยั่งยืน"
วันพุธที่ 27 ตุลาคม 2553 ณ ชั้น 17 บจก.บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพฯ พาณิชย์ ถ.สุรศักดิ์

เรียน     สมาชิก SVN และผู้สนใจ

เนื่องด้วยมูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย จะจัดงานเสวนาวิชาการครั้งที่ 97 ในหัวข้อดังกล่าวข้างต้น จึงทำหนังสือนี้มาเรียนเชิญท่านเข้าร่วมงานในฐานะแขกรับเชิญ (ไม่เสียค่าใช้จ่าย) โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้:  

กำหนดการ   
12:30 ลงทะเบียน
13:00 เปิดการเสวนาและแสดงปาฐกถา “CSR สำหรับวิสาหกิจยุคใหม่: แนวโน้มระดับโลก”  ศาสตราภิชาน กิตติ พัฒนพงศ์พิบูล ประธานกรรมการอำนวยการ มูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย
13:45 CSR ที่แท้ และบทบาทของ UN Global Compact ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร มูลนิธิฯ และผู้แทน UN Global Compact ในประเทศไทย  
14:45 กรณีศึกษา CSR ที่ทำได้จริง บจก.บริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ คุณสุเมธ มณีวัฒนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บจก.บริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ (บสก.)  
15:15 พัก-รับประทานเครื่องดื่ม เครื่องเคียง
15:30 การอภิปราย “CSR ทำได้ทั้งระดับบริษัทข้ามชาติ บริษัทขนาดใหญ่ และ SMEs”

ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ นักวิชาการอาวุโส ศูนย์ศึกษาธุรกิจและรัฐบาล
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ อาจารย์ภาควิชาการธนาคารและการเงิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
คุณกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานชมรมจรรยาบรรณ หอการค้าไทย
คุณกนก อภิรดี Chairman-Corporate Stategic Committee Green tremd Co.,LTD (Property & Funding)
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร มูลนิธิฯ และผู้แทน UN Global Compact ในประเทศไทย  

17:00 ปิดการเสวนา (วิทยากรอยู่ระหว่างเรียนเชิญ)
  
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา และโปรดแจ้งตอบรับคำเชิญกลับทางโทรสาร (02.295.1154) โทร.0.2295.3171 คุณปิยะดา หรือ
Email: info@thaiappraisal.org ภายในวันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม ศกนี้ จะเป็นพระคุณยิ่ง

 

วันพุธที่ 27 ตุลาคม 2553 ณ โรงแรมบางกอกเซ็นเตอร์ ถนนพระราม 4 เวลา 09.00 - 16.00 น.

สำนักงานส่งเสริมเอสเอ็มอี (สสว.) ร่วมมือ สมาคมชาวโบ๊เบ๊ โดยกลุ่มผู้ประกอบการ Street Fashion ผนึกกำลังบุกตลาดส่งออก หวังผลักดันอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยก้าวไกลระดับโลก จัดกิจกรรมอบรม “โครงการกิจกรรมย่อยสนับสนุนเงินทุนผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม” เพื่อแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ โดยมีคุณคมสรรค์ วิจิตรวิกรม ประธาน Street Fashion Runway มาร่วมเล่าประสบการณ์แห่งความสำเร็จครั้งนี้ด้วย สำหรับผู้ประกอบการและผู้สนใจเข้าร่วมโครงการในปี 2554 จำนวน 100 คน ในวันพุธที่ 27 ตุลาคม 2553 ณ โรงแรมบางกอกเซ็นเตอร์ ถนนพระราม 4 เวลา 09.00 – 16.00 น. สำหรับผู้สนใจสำรองที่นั่งหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 089-452-3211 

 

วันเสาร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วันพุธที่ 27 ตุลาคมนี้ เวลา 08.30 - 12.00 น. ณ โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทารา แกรนด์ ลาดพร้าว

สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ จัดสัมมนา "ความเสี่ยงเศรษฐกิจไทยกับการเติบโตของ จีดีพี ปี 54"
สมาคม ผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ จัดสัมมนา "ความเสี่ยงเศรษฐกิจไทยกับการเติบโตของ จีดีพี ปี 54" วันพุธที่ 27 ตุลาคมนี้ เวลา 08.30 - 12.00 น. ณ โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทารา แกรนด์ ลาดพร้าว โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "ความเสี่ยงเศรษฐกิจไทยกับการรับมือของรัฐบาล" ส่วนผู้ร่วมสัมมนา "ความเสี่ยงเศรษฐกิจไทยกับการเติบโตของ จีดีพี ปี 54" ประกอบด้วย หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย และนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล รองประธานคณะกรรมการการบริหารการเงินและกรรมการการลงทุนเครือเจริญโภคภัณฑ์ ดำเนินรายการโดย วีระ ธีระภัทรานนท์ จึงขอเชิญชวนผู้สนใจและประชาชนทั่วไป เข้าร่วมงานสัมมนาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

 
ข้อมูลข่าวและที่มา

ผู้สื่อข่าว : ฑีฆะสุดา ภักดี   Rewriter : คณิต จินดาวรรณ
สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th



 วันที่ข่าว : 23 ตุลาคม 2553


วันพุธที่ 27 ตุลาคม นี้ เวลา 08.00 - 16.30 น.ณ โรงแรมบ้านทิพย์สวนทอง รีสอร์ท จังหวัดสมุทรสงคราม

 

 

กมธ.วุฒิสภา ลงพื้นที่ จัดสัมมนาเรื่อง การบังคับใช้กฎหมายกับการจัดการสิ่งแวดล้อม

21 ต.ค. 53        ประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา เผย ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสภาทนายความ จัดสัมมนา เรื่อง การบังคับใช้กฎหมายกับการจัดการสิ่งแวดล้อมหวัง เผยแพร่ความรู้ทางกฎหมายสิ่งแวดล้อมแก่สมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน ผู้นำชุมชนและเจ้าพนักงานของรัฐ ณ จังหวัดสมุทรสงคราม 27 ต.ค นี้

        นายสุรชัย  เลี้ยงบุญเลิศชัย ประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา กล่าวว่าวันพุธที่ 27 ตุลาคม นี้ เวลา 08.00 16.30 น. กมธ.จะร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสภาทนายความ จัดสัมมนาการมีส่วนร่วมของประชาชน เรื่อง การบังคับใช้กฎหมายกับการจัดการสิ่งแวดล้อมณ โรงแรมบ้านทิพย์สวนทอง รีสอร์ท จังหวัดสมุทรสงคราม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมายสิ่งแวดล้อมแก่สมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน ผู้นำชุมชนและเจ้าพนักงานของรัฐ และเพื่อส่งเสริมให้เกิดกระบวนการพัฒนาการส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดการ การรักษา การแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมภายในชุมชนหรือท้องถิ่นของตนเอง ตลอดจนกระตุ้นให้เกิดแนวความคิดเชิงป้องกัน การแก้ไขปัญหาและรวมทั้งการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทโดยสันติ

นายสุรชัย กล่าวด้วยว่า ในการสัมมนาดังกล่าวตนจะปาฐกถาพิเศษเรื่อง มาตรการทางสังคมกับการจัดการสิ่งแวดล้อม จากนั้น จะเป็นการอภิปรายเรื่อง ปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม โดยนายปรีชา  เจี๊ยบหยู โครงการอนุรักษ์ชุมชนบ้านลมทวน นายวิสูตร  นวมศิริ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 10 ตำบลบางแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม นายปัญญา  โตกทอง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลแพรกหนามแดง นายสุภัทร  ผลอินหอม กำนันตำบลวัดประดู่ และนาสาวกานดา  พาเจริญ เครือข่ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรสงคราม

 

 

 

 

 

                                                                อัญชิสา  จ่าภา    ผู้สื่อข่าว

                                                        มันทนา  ศรีเพ็ญประภา        เรียบเรียง



 



วันพุธที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ขาดรูปใบเดียว อดสอบแพทย์


จาก: lee lee <thai9lee@gmail.com>
วันที่: 20 ตุลาคม 2553, 21:18
หัวเรื่อง: ขาดรูปใบเดียว อดสอบแพทย์
ถึง: 
 
 

เรียนท่านที่รักบ้านเมือง และสื่อมวลชน จดหมายจากคุณอำนวย            สุนทรโชติ

 
                         ชมรมค่านิยมเพื่อสร้างชาติ

                                                                                                  87/2 ถ.ศุขประยูร ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา

                                                                            20  ตุลาคม 53

เรื่อง              ขอชี้แจงกรณีน.ส.ศรัญญา ไม่มีสิทธิ์เข้าสอบและข้อเสนอเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในปีต่อๆไป

กราบเรียน    ศ.พญ.บุญมี  สถาปัตยวงศ์ ประธานคณะอนุกรรมการจัดสอบของกสพท.

                   ตามที่ท่านได้ให้ข่าวที่ปรากฎบนหน้าหนังสือพิมพ์ในวันที่ 20 ตุลาคม 53 กรณีที่กสพท.ตัดสิทธิ์น.ส.ศรัญญา จันนามวงค์ไม่ให้เข้าสอบนั้น ผมเห็นว่าท่านยังทราบข้อเท็จจริงคลาดเคลื่อนและการที่ท่านยืนยันว่ากรณีนี้เกิดขึ้นทุกปีนั้นแสดงให้เห็นว่าระบบยังมีปัญหาอยู่ผมจึงขอเสนอแนะวิธีการแก้ปัญหาแบบถาวรเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับนักเรียนในรุ่นต่อๆไปดังนี้

                     1.ตามที่ท่านให้ข่าวว่าทางอนุกรรมการได้ช่วยเหลือโดยเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ส่งเอกสารเพิ่มเติมจากเดิมภายในวันที่ 3 กย.53 เป็น 1 ตค.53 แต่นักเรียนไม่ติดตามข่าวทางเว็บไซต์ของกสพท.เองนั้น ผมคิดว่าแนวคิดและการกระทำดังกล่าวยังไม่ถูกต้องเพราะตามประกาศฉบับแรกซึ่งถือเป็นฉบับหลักของกสพท.ที่นักเรียนทุกคนยึดถือนั้นระบุเพียงว่า “ให้ผู้สมัครสอบทุกคนตรวจสอบสถานภาพการสมัคร โดยคลิกที่ link ตรวจสอบสถานภาพการสมัครสอบและสถานที่สอบที่เว็บไซต์ www.9.si.mahidol.ac.th” เท่านั้นในข้อความดังกล่าวข้างต้นไม่ได้ระบุว่าจะต้องเข้าตรวจสอบภายในเมื่อใดฉะนั้นนักเรียนก็สามารถเข้าตรวจสอบเมื่อไรก็ได้ตราบใดที่เป็นการตรวจสอบก่อนการสอบ ฉะนั้นการที่น.ส.ศรัญญาได้เข้าตรวจสอบในวันที่ 15 ตค.53 ซึ่งเป็นระยะเวลา 15 วันก่อนการสอบจึงเป็นเรื่องสมเหตุสมผลแล้ว ประกอบกับข้อความใช้คำว่า “สถานที่สอบ” ทำให้นักเรียนเข้าใจว่าการตรวจสอบจะเป็นการตรวจสอบว่าจะได้สอบในสถานที่ใดเหมือนกับของสทศ.ดังนั้นนักเรียนส่วนใหญ่จึงเข้าใจว่าเป็นการตรวจสอบสถานที่สอบซึ่งจะทำกันเมื่อใกล้การสอบจะมาถึง และผมขอยืนยันท่านว่านักเรียนส่วนใหญ่ที่สมัครสอบกับกสพท.นั้นคิดเข่นนี้และ ณ เวลานี้ก็ยังไม่ได้เข้าไปตรวจดังกล่าวเลย ฉะนั้นการเข้าใจประเด็นนี้ของน.ส.ศรัญญาจึงไม่ได้เกิดจากการตีความผิดของน.ส.ศรัญญาแต่เป็นการเขียนระเบียบไม่ชัดเจนของกสพท.เอง ประกอบกับตารางเวลารับสมัครที่อยู่ในประกาศก็ไม่มีข้อกำหนดว่าให้เข้าไปตรวจสอบได้ภายในเมื่อใดหรือหมดเขตการอุทธรณ์ปัญหาต่างๆเมื่อใดฉะนั้นนักเรียนจึงไม่ได้เข้าใจผิดหรือประมาทแต่อย่างใด

                      และการที่ท่านกล่าวว่า “นักเรียนไม่ติดตามข่าวสารทางเว็บไซต์ของกสพท.เอง” นั้นผมคิดว่าท่านนั้นมีสมมติฐานที่ผิดอย่างมากต่อนักเรียนและวิธีการรับสมัครระดับชาติ เพราะสิ่งที่ถูกต้องนั้นท่านจะต้องเขียนประกาศให้ครบและชัดเจนตั้งแต่ประกาศฉบับแรกที่ถือเป็นประกาศฉบับหลัก เพราะนักเรียนทุกคนจะยึดถือประกาศฉบับนี้เท่านั้น การมีประกาศใดๆเพิ่มเติมขึ้นมาในภายหลังนั้นมีความเสี่ยงอย่างมากที่นักเรียนทุกคนจะไม่รับทราบประกาศเพิ่มเติมดังกล่าวและจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างที่กิดขึ้น ซึ่งท่านก็ได้ยืนยันว่ามีเกิดขึ้นทุกปี และการที่ท่านตั้งสมมติฐานว่านักเรียนทุกคนจะต้องเข้าอ่านประกาศทางเว็บไซต์ของกสพท.อยู่เรื่อยๆหลังจากการสมัครและหลังจากการประกาศฉบับแรกแล้วนั้น เป็นสมมติฐานที่สร้างภาระให้กับนักเรียนเป็นอย่างมาก เพราะปัจจุบันนักเรียนทุกคนนั้นมีภาระกิจมากอยู่แล้วทั้งการเรียนและการสอบการจะต้องบังคับให้นักเรียนที่สมัครไปแล้วจ่ายเงินและส่งเอกสารไปเรียบร้อยแล้วต้องมานั่งคอยระวังว่ากสพท.จะมีประกาศเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงอะไรอีกนั้นถือเป็นเรื่องที่สร้างภาระให้กับนักเรียนมากเกินไปและไม่ควรทำอย่างยิ่ง ยิ่งประเทศไทยมีปัญเรื่องการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตโดยเฉพาะในชนบทที่ห่างไกลนั้นการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง

                      ฉะนั้นการที่ท่านอ้างว่าท่านได้ยืดระยะเวลาส่งเอกสารออกไปโดยการประกาศทางเว็บไซต์เพิ่มเติมนั้นไม่ถือได้ว่าเป็นการแก้ปัญหาเพราะนักเรียนที่มีปัญหาจะไม่รับทราบประกาศดังกล่าว

                      2.ผมมีคำถามว่าทำไมการที่เจ้าหน้าที่ของกสพท.ทราบว่ามีนักเรียนไม่ว่ากี่คนก็ตามได้สมัครสอบและจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว แต่ขาดเอกสารแค่บางอย่างนั้น แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่านักเรียนคนนั้นสนใจที่จะเข้าสอบจริงๆ แต่การรับสมัครทางอินเตอร์เน็ตและการส่งเอกสารทางไปรษณีย์นั้นเป็นการสื่อสารทางเดียว นักเรียนอาจจะสมัครแต่ระบบไม่รับก็ได้ นักเรียนอาจจะจ่ายเงินแต่ท่านไม่ได้รับก็ได้ และนักเรียนอาจจะส่งเอกสารไปครบแต่ท่านได้รับไม่ครบก็ได้ ประกอบกับในใบสมัครนั้นท่านก็มีทั้งเบอร์โทร.ของนักเรียน เบอร์โทรของผู้ปกครอง ที่อยู่ของนักเรียน และอีเมล์ของนักเรียนทำไมท่านไม่เมตตาโทรหรือส่งจดหมายหรืออีเมล์ไปแจ้งนักเรียนที่มีปัญหานั้นซึ่งทำได้ง่ายมากและปัญหาจะจบ ซึ่งจำนวนนักเรียนที่มีปัญหาก็ไม่ควรจะมากจนท่านไม่สมารถติดต่อกลับไปได้ แต่ถ้าท่านจะอ้างว่าจำนวนนักเรียนที่มีปัญหานั้นมีจำนวนมากจนไม่สามารถติดต่อรายบุคคลได้นั้นก็จะแสดงให้เห็นว่าระบบการรับสมัครของท่านนั้นมีปัญหาจริงๆไม่เช่นนั้นคงไม่มีปัญจำนวนมากซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นท่านก็ควรปรับเปลี่ยนวิธีการรับสมัครให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ประกอบกับค่าสมัครสอบจำนวน 1200 บาทนั้นเมื่อเทียบกับการสอบ GAT/PAT แล้วถือว่าเป็นค่าสมัครที่แพงกว่าของ GAT/PAT เพราะการสอบ  GAT/PAT จะเสียค่าสมัครวิชาละ 150 บาทเท่านั้นซึ่งถ้าเป็นการสอบ 5 วิชาของกสพท.ก็ควรเสียค่าสมัครแค่ 750 บาทเท่านั้น และเมื่อการสอบ GAT/PAT ของสทศ.เก็บค่าสมัคร 750 บาทแล้วยังมีกำไรก็แสดงว่าการของของกสพท.น่าที่จะต้องมีกำไรเป็นเท่าทวี และยิ่งไปกว่านั้นการสอบ GAT/PAT ของสทศ.นั้นไปดำเนินการสอบที่ศูนย์สอบในทุกจังหวัดทำให้ยิ่งต้องมีค่าใช้จ่ายมากแต่ยังมีกำไร แต่การสอบของท่านกระทำในศูนย์สอบไม่กี่แห่งก็ยิ่งต้องมีกำไรมากขึ้นไปอีก แล้วเมื่อท่านมีกำไรจำนวนมากทำไมท่านไม่จัดงบประมาณส่วนหนึ่งมาใช้แก้ปํญหาต่างๆที่เกิดขึ้น เช่นการติดต่อกับนักเรียนที่มีปัญหาทางโทรศัพท์หรือทางจดหมายซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายไม่มากเลยเมื่อเทียบกับกำไรที่ท่านได้รับ

                3.การที่ท่านกล่าวว่าการที่จะให้น.ส.ศรัญญาได้เข้าสอบนั้น “จะไม่ยุติธรรมกับคนอื่นๆ”นั้นผมไม่เข้าใจว่าการอนุญาตให้นักเรียนที่สมัครและจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วได้เข้าสอบนั้นมันไม่ยุติธรรมกับคนอื่นอย่างไร ถ้าท่านจะหมายความว่าท่านก็ถือปฏิบัติเช่นนี้กับนักเรียนจำนวนมากที่มีปัญหาจนนักเรียนเหล่านั้นไม่สามารถเข้าสอบได้แล้ว ก็ต้องถือเป็นเรื่องที่น่าตื่นตระหนกว่าท่านได้สร้างระบบและกติกาที่ส่งผลให้นักเรียนจำนวนมากไม่ได้เข้าสอบและเป็นเช่นนี้มาหลายปีแล้ว ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงท่านควรกลับไปแก้ไขที่ระบบไม่ใช่โยนบาปไปให้นักเรียน โดยหลักการการสร้างกติกาสาธารณะแล้วการสร้างระบบหรือกติกาใดๆจะต้องยึดหลักว่าคนที่อ่อนแอที่สุดในสังคมจะต้องได้รับความสะดวกจากระบบนั้นได้ ไม่ใช่คิดแค่เพียงว่าถ้ามีคนจำนวนมากปฏิบัติได้ก็ถือได้ว่าเป็นระบบที่ยุติธรรมแล้ว

                 ผมขอยืนยันกับท่านว่าการสอบเข้ามหาวิทยาลัยนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดเรื่องหนึ่งในชีวิตของคนคนหนึ่ง เมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้นก็จะเป็นรอยบาปที่ติดตัวเขาไปตลอดชีวิต ซึ่งประเด็นนี้ยิ่งเมื่อได้เกิดขึ้นกับใครด้วยตนเองหรือเกิดกับลูกหลานของเขาเขาก็จะเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความเจ็บปวดดังกล่าว ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับนักเรียนในปีถัดๆไป ผมจึงขอเสนอวิธีการแก้ปัญหาดังนี้

                 ก. กำหนดกติกาให้ชัดเจนว่านักเรียนแต่ละคนจะต้องทำอะไรเมื่อไร และต้องไม่เปลี่ยนแปลงกติกาอีก เพื่อนักเรียนจะได้ไม่ต้องคอยระวังที่จะต้องเข้าเช็คเว็บไซต์เป็นระยะๆเพราะกลัวว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงกติกา

                 ข. ถ้าท่านยังยืนยันที่จะใช้ระบบการรับสมัครแบบการสื่อสารทางเดียวแบบนี้ ควรแบ่งกำไรจำนวนหนึ่งมาเป็นค่าใช้จ่ายในการติดต่อกับนักเรียนที่มีปัญหา

                 และสุดท้ายนี้ผมขอเรียนให้ท่านทราบว่าขณะนี้อนาคตของนักเรียนจำนวนหนึ่งกำลังขึ้นอยู่กับความเมตตาของท่าน เพียงแค่ท่านยอมลำบากในการแก้ไขเอกสารเพียงเล็กน้อยก็จะทำให้พวกเขาเหล่านั้นได้มีอนาคตที่สวยงามต่อไป

                                                              อำนวย      สุนทรโชติ

                                                                 โทร.0865676052








วันอังคารที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วันพุธที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๓ เวลา ๐๘.๔๕ น. ณ ห้องมิ่งเมือง ชั้น ๔ โรงแรมเดอะทวิน ทาวเวอร์ หัวลำโพง กรุงเทพฯ

 
 
     วันพุธที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๓   เวลา ๐๘.๔๕ น. นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานเปิดการสัมมนาเพื่อรับฟังความคิดเห็นร่างยุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนตั้งครรภ์ไม่พร้อม ณ ห้องมิ่งเมือง ชั้น ๔ โรงแรมเดอะทวิน ทาวเวอร์ หัวลำโพง กรุงเทพฯ

--

วันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2553

โครงการเยาวชนชายขอบ "เปลี่ยนพื้นที่ตะโกน"

โครงการเยาวชนชายขอบ "เปลี่ยนพื้นที่ตะโกน"

Activity Date: 
Wed, 2010-10-20 09:00

สถานที่: ห้องประชุมสภาพัฒนาการเมือง ชั้น ๔ สภาพัฒนาการเมือง ศูนย์ราชการฯ

 

9.00 – 9.20 น. ละครข้างสุเหร่า "การเมืองดี...ชีวิตดี"

9.20 – 9.45 น. ดร.ลัดดาวัลย์ ตันติวิทยาพิทักษ์ รองประธานสภาพัฒนาการเมือง กล่าวต้อนรับและแนะนำสภาพัฒนาการเมือง

9.45 – 10.00 น. นำเสนอข้อค้นพบจากงานวิจัย "เยาวชนชายขอบหญิงชายกับการมีส่วนร่วมพัฒนาประชาธิปไตย"

10.00 – 11.30 น. เวทีเยาวชนเพื่อนำเสนอประเด็นสาธารณะที่สำคัญและห่วงใยของเยาวชนจากพื้นที่ชายขอบ

11.30 – 12.30 น. "เยาวชนชายขอบร่วมแลกเปลี่ยนกับผู้ใหญ่เมือง": รับฟังและแลกเปลี่ยนแนวทางการแก้ปัญหาของพื้นที่กับผู้แทนองค์กรที่เกี่ยว ข้อง

------------------------------------------------------------------------

สถานที่: อาคารรัฐสภา

12.00 – 13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน

13.00 – 14.30 น. เยาวชนชายขอบร่วมแลกเปลี่ยนกับนักการเมืองในรัฐสภา: เวทีเยาวชนเพื่อนำเสนอข้อห่วงใย/ประเด็นคำถาม และแลกเปลี่ยนแนวทางการแก้ไขปัญหาของพื้นที่กับผู้แทนองค์กรที่เกี่ยวข้อง
อาคารรัฐสภา ๒ ห้อง ๓๐๓ เยาวชนจากสามจังหวัดชายแดนใต้ พบกับ สส. สว. ที่มาจาก สามจังหวัดชายแดนใต้

อาคารรัฐสภา ๒ ห้อง ๓๐๔ เยาวชนฐานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พบกับ นักการเมืองที่เกี่ยวข้องในประเด็นทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

อาคารรัฐสภา ๒ ห้อง ๓๐๕ เยาวชนพบกับนักการเมืองที่เกี่ยวข้องกับประเด็นธรรมาภิบาลและสิทธิมนุษยชน

14.30 – 14.45 น. ยื่นหนังสือให้กับผู้แทนรัฐบาล
14.45 – 15.00 น. เยาวชนชายขอบ: แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
----------------------------------------------------------------------

สถานที่: วีเทรน อินเตอร์เนชั่นแนลเฮ้าส์
15.30 – 16.00 น. กิจกรรมสันทนาการ
16.00 – 18.00 น. กิจกรรม "World Café" เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเยาวชนเมือง
18.30 – 21.30 น. อาหารเย็น และ กิจกรรม/การแสดงศิลปวัฒนธรรม

 

 

*เครือข่ายเยาวชนชายขอบเพื่อพัฒนาประชาธิปไตย 17 องค์กร

ภาคเหนือ
1. กลุ่มตะกอนยม "โครงการศึกษาวิถีชุมชน ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้"
2. มูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา "โครงการเสริมความรู้ทางด้านกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาด้านสถานะและสิทธิมนุษยชนจังหวัดเชียงราย"
3. ศูนย์ปฏิบัติการร่วมเพื่อแก้ไขปัญหาประชาชนบนพื้นที่สูง "โครงการพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชนชนเผ่าพื้นเมืองในการจัดการที่ดินในเขต ป่าโดยรูปแบบโฉนด"
4. สมาคมศูนย์รวมการศึกษาและวัฒนธรรมของชาวไทยภูเขาในประเทศไทย "พัฒนาศักยภาพเยาวชนชนเผ่าเพื่อให้เข้าถึงกลไกและการบริการขององค์การบริหาร ส่วนตำบล"

ภาคอีสาน
1. กลุ่มเผยแพร่กฎหมายสิทธิมนุษยชนเพื่อสังคม (ดาวดิน) (1) "โครงการพัฒนาทักษะแกนนำเยาวชนในการส่งเสริมประชาธิปไตย" (2) "โครงการโรงเรียนการเมือง ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน" (3) โครงการค่ายสิทธิมนุษยชนเพื่อคนรุ่นใหม่"
2. เครือข่ายที่ดินสมัชชาคนจน "โครงการเสริมสร้างขบวนการเรียนรู้การทำงานทางสังคมของเยาวชนหญิงชายในอีสาน"
3. Friend of Activist Network "โครงการสื่อสร้างสรรค์สะท้อนปัญหาเขื่อนโปร่งขุนเพชร"

อันดามัน
1. เครือข่ายเยาวชนอ่าวพังงา "โครงการค่ายฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการรณรงค์และส่งเสริมประชาธิปไตยในระดับท้องถิ่น"
2. องค์กรความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติอันดามัน (1) "โครงการพัฒนาความร่วมมือภาคีสนับสนุนเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพกลุ่มเยาวชน อันดามัน" (2) "โครงการสร้างศักยภาพกลุ่มเยาวชนอันดามันและเครือข่ายเพื่อการพัฒนา ประชาธิปไตย"
3. เยาวชนกลุ่มเทียนไข "โครงการเยาวชนส่องสว่างสู่ชุมชน"
4. มูลนิธิประทีปธรรมเพื่อการศึกษา "การเมืองดี...ชีวิตดี โดยกลุ่มสื่อสาธารณะตัวน้อย"

สามจังหวัดชายแดนใต้
1. กลุ่มเยาวชนวิจัยเพื่อประชาธิปไตย "โครงการเยาวชนรุ่นใหม่ใส่ใจประชาธิปไตย"
2. กลุ่มผู้หญิงกับสันติภาพ "โครงการสื่อวิทยุชุมชนสร้างสรรค์ประชาธิปไตยชุมชน"
3. เครือข่ายอาสาสมัครผู้ช่วยทนายความ ศูนย์ทนายความมุสลิมจังหวัดชายแดนใต้ "โครงการเยาวชนจิตสาธารณะสู่การพัฒนาประชาธิปไตยที่ยั่งยืน"
4. เครือข่ายบัณฑิตอาสาพัฒนาสังคมจังหวัดชายแดนใต้ (1) " โครงการครูอาสาพัฒนาตาดีกา จังหวัดชายแดนภาคใต้" (2) "โครงการสื่อ InSouth สื่อทางเลือกชายแดนใต้"
5. มูลนิธิวัฒนธรรมอิสลามภาคใต้ "โครงการสร้างเสริมศักยภาพเยาวชนสู่การเรียนรู้ประชาธิปไตยทางการเมือง"
6. สหพันธ์นิสิตนักศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ "โครงการสานสัมพันธ์นิสิตนักศึกษาชายแดนใต้เพื่อสันติภาพ"




วันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วันที่ 10 พฤศจิกายน 2553 เวลา 07.00-13.00 น. ณ ชั้น 1 อาคารดุลโสภาคย์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ

โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ กำหนดจัดงาน “วันเบาหวานโลก 2553” World Diabetes Day 2010 ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2553 เวลา 07.00-13.00 น. ณ บริเวณหน้าหน่วยตรวจสูติ-นรีเวชกรรม ชั้น 1 อาคารดุลโสภาคย์
          งานนี้เป็นการตรวจคัดกรองเบาหวานและความดันโลหิตตามโครงการสนองน้ำพระราชหฤทัยในหลวงทรงห่วงใยสุขภาพประชาชน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสที่จะทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2554 จึงขอเชิญผู้สนใจร่วมงานตามกำหนดการดังกล่าว สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณพิชญ์วรา พันธุ์พิทย์แพทย์ โทรศัพท์ 0-2926-9340-2
          
          สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-9269310-1 นางสาวนภาพร บุญฤทธิ์ เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ 
          โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ

--

วันพุธที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วันที่ 20-26 ตุลาคม 2553 ณ ศูนย์การค้าย่านราชประสงค์ สยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ สยามดิคัฟเวอรี่ สยามเซ็นเตอร์ และเกษรพลาซ่า


ผุด Thailand Fashion Expo ชู กทม. ศูนย์กลางแฟชั่นเอเชีย

 

       "ก.พาณิชย์" เปิดตัวโครงการ Thailand Fashion Expo 2010 ที่จัดขึ้นภายใต้แนวความคิด “Gate Way to Workld Fashion in Asia” เพื่อประกาศศักยภาพความพร้อมของอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยให้เป็นผู้นำด้านสินค้า แฟชั่นในเอเชีย-แปซิฟิก นำเสนอความยิ่งใหญ่ครั้งแรกแห่งปรากฎการณ์แฟชั่นระดับโลกในอาเซียนและเพื่อ ให้บรรลุเป้าหมายภายใต้วิสัยทัศน์ที่จะผลักดัน Thailand become the biggest high potential player in the world Fashion market in Asia โดยมีภาครัฐและเอกชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันโครงการคับคั่ง อาทิ กรมส่งเสริมการส่งออก สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมอุตสาหกรรมสิ่งทอไทย สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย สมาคมการค้าเครื่องประดับแฟชั่น สมาคมเครื่องหนังไทยศูนย์การค้าสยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เกษรพลาซา และ อสมท.
       
       นาง พรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า โครงการ Thailand Fashion Expo2010 เป็นกลไกของกระทรวงพาณิชย์เพื่อที่จะขับเคลื่อนธุรกิจการค้าไทยโดยเฉพาะ สินค้าและบริการด้านแฟชั่นของประเทศ ให้สามารถขยายมูลค่าทางการค้าทั้งในประเทศและส่งออกสู่ตลาดโลก รวมทั้งเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางแฟชั่นของ ภูมิภาค ASEAN และเอเชีย
       
       โครงการ Thailand Fashion Expo 2010 กำหนดให้มีขึ้นในเดือนตุลาคมศกนี้ ประกอบด้วย 2 กิจกรรมหลัก เพื่อพัฒนาและส่งเสริมผู้ประกอบการด้านแฟชั่น และเรียกคืนความเชื่อมั่นให้กลุ่มผู้ประกอบการโดยเฉพาะนักธุรกิจที่ได้รับผล กระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนบุคคลากรด้านการออกแบบแฟชั่นไทยให้มีโอกาสเข้า สู่ตลาดธุรกิจการค้าในอุตสาหกรรมแฟชั่นในประเทศและตลาดโลกเพิ่มมากขึ้นผ่าน กิจกรรมที่จะมีขึ้นในวันงานดังนี้
       
       กิจกรรมที่ 1 Activities On Ground ระหว่างวัน ที่ 20-26 ตุลาคม ประกอบด้วย
       
       -ครั้ง แรกของเอเซียที่มีดีไซน์เนอร์ระดับโลก มาร่วมแสดงผลงานพร้อมกันสองคนได้แก่ วิเวียน เวสวู๊ส และ ก้อย สุวรรณเกตุ ร่วมด้วยดีไซน์เนอร์ไทยชื่อดัง กว่า 38 แบรนด์ ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์
       
       -ครั้ง แรกในประวัติศาสตร์ที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังของเมืองไทย จับมือเพื่อร่วมผนึกกำลังสร้างความยิ่งใหญ่ให้แก่วงการแฟชั่นไทย ได้แก่ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เซ็นทรัลเวิลด์ สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และ เกษรพลาซ่า
       
       -การ แสดงแฟชั่นโชว์กว่า 40 รอบ จากผู้ประกอบการแฟชั่นไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลก 2 เวที Grand Runway ที่สยามพารากอน และเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อแสดงศักยภาพอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย
       
       -มหกรรม การแสดงสินค้าแฟชั่น ณ ย่านการค้าราชประสงค์ ปทุมวัน โดยรวบรวมผู้ประกอบการสินค้าแฟชั่นแบรนด์ไทยจำนวนทั้งสิน 300 คูหา ณ บริเวณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่
       
       -การจับคู่ทางธุรกิจ [Business Matching] โดยกระทรวงพาณิชย์ ร่วมด้วยกรมส่งเสริมการส่งออกส่งเทียบเชิญนักธุรกิจที่คร่ำหวอดในแวดวง แฟชั่นจากทั่วโลกร่วมงานกว่า รายเพื่อร่วมงาน ทั้งนี้ตลอดทั้ง 7 วัน ของการจัดงาน จะมีผู้ซื้อรายใหญ่จากกลุ่มห้างสรรพสินค้าทั่วโลกร่วมงานอย่างคับคั่ง
       
       -Gala Night งานแสดงแฟชั่นโชว์ ที่ยิ่งใหญ่ โดยทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเป็นองค์ประธานในวันที่ 21 ตุลาคม ศกนี้
       
       -สัมมนาพิเศษเรื่อง EFFECTIVE DESIGN โดย ก้อย สุวรรณเกตุ ในวันที่ 22 ตุลาคม 2553
       
       ด้าน นางบุษบา จิราธิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัทเซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้สนับสนุนการจัดงาน กล่าวว่า เซ็นทรัลรู้สึกยินดีที่ได้มีส่วนร่วมในการจังาน Thailand Fashion Expo2010 ครั้งนี้ในฐานะที่เซ็นทรัลเป็นผู้มีประสบการณ์ด้านการค้าปลีกอย่างยาวนาน ยินดีให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อการขับเคลื่อนแบรนด์ไทย ซึ่งจากการสำรวจยอดซื้อสินค้าภายในเซ็นทรัลต่อใบเสร็จจะเห็นได้ว่าด้าน แฟชั่นมียอดเติบโตทุกปี การที่ภาครัฐให้การสนับสนุนเปิดตลาดต่างประเทศ รวมถึงการนำลูกค้าจากต่างประเทศเข้ามาเมืองไทย ครั้งนี้ก็เชื่อมั่นว่าอนาคตแฟชั่นแบรนด์ที่สร้างสรรค์โดยไทยดีไซน์เนอร์ของ เราก็จะสามารถนำเม็ดเงินกลับเข้ามาหมุนเวียนในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก
       
       นาย เกรียงศักดิ์ ตันติพิภพ ผู้บริหารอาวุโสสายการตลาด บริษัทสยามพารากอน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด กล่าวว่า การร่วมงานครั้งนี้สยามพารากอน ได้เตรียมพื้นที่ที่บริเวณลานพาร์คพารอน ให้เป็นแกรนด์รันเวย์ ซึ่งเป็นพื้นที่การจัดโชว์ที่ยิ่งใหญ่ และเป็นพื้นที่สำคัญที่มีความโดดเด่น สามารถสร้างการรับรู้ได้ในวงกว้าง เพราะพาร์คพารากอนนั้นอยู่ด้านหน้าสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสยาม ซึ่งมีผู้ใช้บริการหมุนเวียนวันละ 4-5 แสน คนต่อวัน ประกอบกับลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่หมุนเวียนมาจับจ่ายใช้สอยในสยาม พารากอนจำนวน 200,000 คนต่อวัน เชื่อว่าเฉพาะที่สยามพารากอนจะสามารถโชว์ผลงานผ่านสายตาผู้คนนับล้านคน เชื่อมั่นว่าการจัดงานในครั้งนี้สยามพารากอนจะเป็นหนึ่งในพลังการขับเคลื่อน แฟชั่นไทยของเราให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน อย่างแน่นอน
       
       สำหรับ งาน Thailand Fashion Expo2010 จัดขึ้น ณ ศูนย์การค้าย่านราชประสงค์ สยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ สยามดิคัฟเวอรี่ สยามเซ็นเตอร์ และเกษรพลาซ่า ระหว่างวันที่ 20-26 ตุลาคม 2553
       
       ****ข้อมูลจาก
www.smethailandclub.com****

 

 

ที่มา  :  ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 สิงหาคม 2553



--

วันอังคารที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วันพุธที่ 20 ตุลาคม 2553 เวลา 10.00 - 19.00 น. ณ อาคาร ชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

กำหนดการกิจกรรม
งานเทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทย  ประจำปี 2553
วันพุธที่  20  ตุลาคม  2553  เวลา 10.00 – 19.00 น.
ณ อาคาร ชาเลนเจอร์ 2  อิมแพ็ค  เมืองทองธานี

9.00 - 12.00 น.

Consultative Workshop on Promotion of National Innovation Systems in the Least Developed Countries of the Asia-Pacific Region
โดย MOST + APCTT-ESCAP (ห้องจูปิเตอร์ 4)

ฝึกอบรมอาชีพ
เพ้นท์รองเท้าผ้าใบ / การจัดดอกไม้สดในพิธีต่างๆ / การจัดสวนถาด / ประดิษฐ์ป้ายไม้ธรรมชาติ / กระเป๋าผ้าเพ้นสีน้ำมัน

13.00 - 17.00 น.

Consultative Workshop on Promotion of National Innovation Systems in the Least Developed Countries of the Asia-Pacific Region
โดย MOST + APCTT-ESCAP (ณ ห้อง จูปิเตอร์ 4)

Workshop เทคนิคเป่าขลุ่ยแนวใหม่ โดย อ. ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี (ห้องจูปิเตอร์ 5)

การฝึกฝนทางอาชีพ
เพ้นท์รองเท้าผ้าใบ / การจัดดอกไม้สดในพิธีต่างๆ / การจัดสวนถาด / ประดิษฐ์ป้ายไม้ธรรมชาติ/ กระเป๋าผ้าเพ้นท์สีน้ำมัน

โชว์ นวัตกรรมจาก อพวช. (เวทีกลาง)




วันจันทร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วันพุธที่ 13 ตุลาคม 2553 เวลา 08.30-16.30 น / วันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม 2553 ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์

ด้วยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) จะจัดให้มีการสัมมนาเปิดตัวสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นสูง ขึ้นในวันพุธที่ 13 ตุลาคม 2553 เวลา 08.30-16.30 น. รวมทั้งมีการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการด้าน “การออกแบบเพื่อนวัตกรรมภาคอุตสาหกรรม” และ “อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางล้อ” ในวันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม 2553 ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์


ทั้งนี้ ขอเชิญอาจารย์/นักวิจัยที่สนใจเข้าร่วมงานในวันและเวลาดังกล่าว ส่งแบบตอบรับหรือลงทะเบียนออนไลน์ที่ http://164.115.5.161/limesurvey/index.php?sid=13972&newtest=Y&lang=th
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นางสาวกมลีพร สงสกุล โทร. 0-2160-5430-7 ต่อ 503 
 

วันศุกร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วันที่ 13 - 14 ตุลาคม 2553 เวลา 08.30-16.30 น.ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์

ขอเชิญร่วมเปิดตัว "สถาบันวิทยาศาสตร์ฯ" และการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ

ด้วยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) จะจัดให้มีการสัมมนาเปิดตัวสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นสูง ขึ้นในวันพุธที่ 13 ตุลาคม 2553 เวลา 08.30-16.30 น. รวมทั้งมีการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการด้าน “การออกแบบเพื่อนวัตกรรมภาคอุตสาหกรรม” และ “อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางล้อ” ในวันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม 2553 ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์


ทั้งนี้ ขอเชิญอาจารย์/นักวิจัยที่สนใจเข้าร่วมงานในวันและเวลาดังกล่าว ส่งแบบตอบรับหรือลงทะเบียนออนไลน์ที่ http://164.115.5.161/limesurvey/index.php?sid=13972&newtest=Y&lang=th
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นางสาวกมลีพร สงสกุล โทร. 0-2160-5430-7 ต่อ 503



วันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วันพุธที่ 13 ตุลาคม 2553 เวลา 18.00 - 21.00 น.ณ หอประชุมจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย

เครือข่ายพลังบวก จัดเวทีพูดสร้างแรงบันดาลใจปลุกพลังบวกคนไทย "Ignite Thailand++ ครั้งที่ 2" วันพุธที่ 13 ตุลาคม 2553 เวลา 18.00 - 21.00 น.ณ หอประชุมจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ในครั้งนี้มีวิทยากรร่วมสร้างแรงบันดาลใจ 18 ท่าน ได้แก่

ดร. ประมวล เพ็งจันทร์ อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้ เริ่มต้นออกเดินเท้าจาก จ.เชียงใหม่ กลับสู่บ้านเกิดที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ด้วยระยะเวลา 66 วัน ผ่านระยะทางกว่า 1,000 ก.ม. นำมาซึ่งการถ่ายทอดเรื่องราวตลอดระยะเวลาของการก้าวย่าง สะท้อนคุณค่าของการมีชีวิตอยู่กับชั่วขณะปัจจุบันผ่านหนังสือ "เดินสู่อิสรภาพ" และอีกหลายเรื่องราวที่อาจารย์ประมวล เพ็งจันทร์ ค้นพบจากการสังเกตชีวิต และได้ถ่ายทอดผ่านตัวหนังสือ เช่น "เราจะเดินไปไหน", "ประมวลความรัก" เป็นต้น

ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา วิศวกรชาวไทย ผู้มีส่วนร่วมและคิดค้นระบบการลงจอดของยานอวกาศบนดาวอังคาร ร่วมกับองค์การนาซาของสหรัฐอเมริกา ผู้ก่อตั้งและบริหารโรงเรียนสัตยาไส โรงเรียนสร้างคนดี ที่อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี นอกนี้ท่านยังสนใจในด้านพลังจิต-สมาธิ รวมถึงเป็นผู้ปฏิบัติธรรมสมาธิภาวนามายาวนานอีกด้วย

คุณสิริยากร พุกกะเวส (อุ้ม)จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เอกโฆษณา (เกียรตินิยมอันดับ 2) เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการเล่นละครโทรทัศน์เรื่องสามใบไม่เถา เมื่อปี 2538 จากนั้นมีผลงานหลากหลาย ทั้งละครโทรทัศน์ ภาพยนตร์ ละครเวที พิธีกร พรีเซ็นเตอร์โฆษณา ... ปี 2546 สิริยากรตั้งบริษัท บ้านอุ้ม จำกัด เพื่อผลิตรายการโทรทัศน์ บ้านอุ้ม และนิตยสาร OOM (โอโอเอ็ม) ตลอดจนผลิตภัณฑ์ของใช้ในบ้าน Baanoom Living Day และสำนักพิมพ์โอโอเอ็ม...นอกจากงานธุรกิจแล้ว สิริยากรยังให้ความสนใจกับโครงการเพื่อสังคมต่าง ๆ เธอก่อตั้งโครงการหางานให้คนตาบอด ประสานงานโครงการ "น้ำจิต น้ำใจ" เพื่อหารายได้สร้างสถานปฏิบัติธรรมที่ จ.ฉะเชิงเทรา... และล่าสุด เธอกำลังสนใจการใช้ชีวิตให้สอดคล้องนอบน้อมกับธรรมชาติ และตั้งใจว่าจะปลูกข้าวกินเองให้ได้ในอีกไม่ช้านี้

ดร. วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ กรรมการปฏิรูป (คปร.) ในขณะที่คนไทยเคยชินกับการพบ เห็นคนตาบอดในลักษณะต่าง ๆ เช่น เล่นดนตรี ขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ฯลฯ แต่ครั้งหนึ่งสังคมไทยต้องตื่นเต้น และรู้สึกมหัศจรรย์ไปกับข่าวการประสบความสำเร็จของคนตาบอดที่ชื่อ "วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์" ผู้พิการตาบอดคว้าตำแหน่งที่ 1 ของคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้รับทุนภูมิพล, เป็นผู้พิการคนที่เป็นข้าราชการคนแรกของประเทศไทย... ปัจจุบัน อาจารย์รับราชการเป็นอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ี้ นอกจากนี้อาจารย์มีบทบาทสำคัญในการพัฒนา และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้พิการผ่านองค์กรเพื่อผู้พิการ เช่น ประธานฝ่ายกฎหมายและสิทธิเสรีภาพมนุษยชน สภาคนพิการแห่งประเทศไทย ฯลฯ

ครูบาสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์ (ปราชญ์ชาวบ้าน)
หัวข้อ : วิจัยไทยบ้าน
ครู บาสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์ ผู้เรียกตนเองว่า “คนนอกระบบ” เป็นครูภูมิปัญญาไทย รุ่น 1 ด้านเกษตรกรรม (การปรับใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม) เจ้ากรมราษฎรส่งเสริม บ้านปากช่อง ต. สนามชัย อ. สตึก จ. บุรีรัมย์ เป็นหนึ่งในจอมยุทธ์ปราชญ์ชาวบ้านพหุภาคีอีสานใต้ ชักชวนคนดีมารู้จักกัน ในนามเครือข่ายเฮฮาศาสตร์ นัดพบกันประจำในบล็อกลานปัญญา นำพากันไปสู่การสร้างสังคมอุดมปัญญา ปีนี้เอาใบไม้มาสับเลี้ยงโค ตัวอ้วนโตลงพุง ทำให้ชาวบ้านมีอาชีพ ประเทศชาติมีต้นไม้เพิ่มขึ้น


คุณธนา เธียรอัจฉริยะ
"ถ้า เราคิดว่าต้นทุนชีวิตเราไม่มาก เราก็กล้าลองมันไปเรื่อยๆ บางทีมันก็เวิร์ค หรือบางทีก็ไม่เวิร์ค แต่ทุกอย่างมันก็จะต่อยอดออกไปได้เอง..." คุณธนา เธียรอัจฉริยะ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ซึ่งเชื่อมั่น และมักย้ำเสมอ ๆ ในหลักการเรื่องความพอดีในการใช้ชีวิต และวันนี้เขารู้สึกมีความสุขได้ในทุกวัน

คุณทนงศักดิ์ ศุภการ
นัก แสดงชื่อดัง ที่มีผลงานละครอย่างต่อเนื่องมาให้ชมกัน ...นอกจากนี้ยังควบตำแหน่งช่างภาพมือทองให้กับนิตยสารพลอยแกมเพชรอีกด้วย และในอีกแง่มุมหนึ่งของคุณทนงศักดิ์ คือ การผันตัวมาวิ่ง วิ่ง และวิ่งอย่างจริงจัง ... "คน เราน่าจะมองเห็นภาพว่าความเจ็บป่วยเป็นทุกข์แค่ไหน และในทางกลับกัน การออกกำลังทำให้พวกเขาเป็นสุขและหนีจากความทุกข์ เหล่านั้นได้"... วันนี้คุณทนงศักดิ์ ไม่เพียงแค่วิ่งเพื่อตัวเองเท่านั้น การวิ่งหลายรายการของเขานอกจากจะสร้างแรงบันดาลใจให้ใครอีกหลายคนหันมาสนใจ สุขภาพตัวเองแล้ว ยังสร้างคุณค่าให้กับสังคมในอีกหลายด้าน หลายมุม เช่น มาราธอน เพื่อเด็กตาบอด, เสียเหงื่อเพื่อชาติ อโยธยามาราธอน เป็นต้น

คุณสรกล อดุลยานนท์ (หนุ่มเมืองจันท์)
"หนุ่ม เมืองจันท์" เป็นนามปากกาของ คุณสรกล อดุลยานนท์ ผู้ จัดการสำนักพิมพ์มติชน บัณฑิตคณะสังคมศาสตร์ฯ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เจ้าของผลงานเขียนเข้าตา ถึงใจของใครหลายคน ไม่ว่าจะเป็น คอลัมภ์ยอดนิยม "ฟาสท์ฟู้ดธุรกิจ"... เดาะโลกดีดี แล้วตีลังกา, มองโลกง่าย ง่าย สบายดี, อารมณ์ดีกับชีวิต, ชีวิตไม่ยาก ถ้าตั้งโจทย์ง่าย, เหยียบโลกไว้ไม่ต้องเครียด, ความสุข ณ จุดที่ยืน, ฝันใกล้ ใกล้ ไปช้า ช้า ฯลฯ และอีกมากมายที่แค่เห็นชื่อผลงาน ก็พอจะมองเห็นถึงพลังของ Positive Thinking ในตัวหนุ่มเมืองจันท์อย่างชัดเจน

คุณจิตร์ ตัณฑเสถียร
เจ้า ของบริษัทที่ปรึกษาโฆษณา Vitamins Consulting & Research, บรรณาธิการวารสารพลัม และอีกมุมหนึ่งของคุณจิตร์ ตัณฑเสถียร เขา คือศิษย์เอกคนหนึ่ง ของท่าน ติช นัท ฮันห์ พระอาจารย์นิกายเซน แห่งหมู่บ้านพลัม (Plum Village) และเป็นผู้แปล และถ่ายทอดผลงานเขียน “ศิลปะแห่งอำนาจ (The Art of Power)” โดยท่านติช นัท ฮันห์ ซึ่งเป็นหนังสือขายดีติดอันดับ Bestseller ของนิวยอร์คไทม์ เป็นภาษาไทย ...."หนังสือเล่มนี้เป็นดั่งระฆังแห่งสติ สมาธิ และปัญญาของพระอาจารย์ ติช นัท ฮันท์ ที่ปลุกให้เราตื่นขึ้น เพื่อดูแลรับผิดชอบชีวิตผ่านอำนาจที่ตัวเองมี ไม่ว่าเราจะเป็นใคร ทำอาชีพอะไร เราจะได้รู้จักอำนาจอย่างถ่องแท้ เรียนรู้ที่จะใช้อำนาจอย่างสร้างสรรค์ แทนที่จะตกเป็นเหยื่อของอำนาจ"

คุณปรีดา ลิ้มนนทกุล
หัวข้อ : By Heart จากใจคนพิการ
ผู้ ทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวรจากอุบัติเหตุ ซึ่งในปัจจุบันเป็นกรรมการผู้จัดการ PWD Outsource Management Co., Ltd.บริษัท ที่ก่อตั้งโดยคนพิการเพื่อคนพิการ โดยเป็นผู้สนับสนุนเครือข่ายสินค้าเพื่อสร้างอาชีพให้กับผู้พิการ ที่ผ่านมาได้ทำโครงการที่ประสบความสำเร็จมาแล้วมากมาย


คุณคงยศ วงษ์วิกย์กรณ์
คุณ คงยศ วงษ์วิกย์กรณ์ หรือ ป๋วย P2WARSHIP หนึ่ง ในผู้ก่อตั้งวงดนตรีครีเอทีฟอารมณ์ดี ที่สรรสร้างเพลงดี ชวนกระตุกต่อมคิด มาแล้วมากมาย ด้วยเพลงฮิตอย่าง จอมยุทธ์, อย่า อยู่ อย่าง อยาก และ ตื่นเถิดชาวยุทธ์ เป็นต้น แล้วงานนี้เขาจะมีอะไรดี ๆ มาบอกเราอีก ติดตามได้ที่นี่เท่านั้น
คุณรัฐภูมิ อยู่พร้อม

"ผมชอบลุยสุด ๆ ในทุกอย่างที่คนชอบบอกว่า ทำไม่ได้" ... คุณรัฐภูมิ อยู่พร้อม ผู้บริหารมูลนิธิ 1500 ไมล์ จากการพายเรือรอบทะเลไทยกว่า 2 ปี เพื่ออุทิศให้กับคุณแม่ของเขา ทำ ให้มีผู้คนจำนวนมากมายคอยติดตามข่าวคราวจนมีการรวมตัวของกลุ่มคนเหล่านั้น ขึ้นภายใต้ชื่อ "ชมรม 1500 ไมล์" ซึ่งมีกิจกรรมต่อเนื่องตั้งแต่คุณรัฐภูมิยังพายเรืออยู่ จนกระทั่งหลังจากพายสุดท้ายที่เกาะช้าง ก็ยังคงมีกิจกรรมร่วมกันอย่างต่อเนื่อง

คุณภาณุมาศ ทองธนากุล (ใบพัด)
นัก เขียนที่ประกาศตัวชัดเจนในทุกๆ เล่มว่า อยู่เคียงข้างคนขี้แพ้ คนที่ไม่มั่นใจในตัวเอง และคนเก่งที่ยังหาตัวเองไม่เจอ โดยบอกเล่าเรื่องราวผ่านความเป็น “มวยรอง” ของตัวเขาเอง ด้วยอารมณ์ขันอย่างร้ายกาจ ทำให้ผู้อ่านได้ฉุกคิดและพบคุณค่าที่พวกเขามี และล่าสุดหนังสือ "การลาออกครั้งสุดท้าย" ที่เขียนขึ้นจากประสบการณ์จริง ได้สะท้อนข้อคิดในมุมที่หลายคนนึกไม่ถึง ช่วยกระตุ้นให้ทุกคนมาร่วมค้นหาคำตอบกับการมี “ชีวิตที่ดี” ในแบบของตัวเอง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับการทำงานที่ไม่ได้รักไปตลอดชีวิต!

ดร. อาบทิพย์ ธีรวงศ์กิจ
หัวข้อ : บทเพลง ความสุข และการแบ่งปัน
อาจารย์ ประจำสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ผู้มีความสุขกับการเล่นดนตรีโดยเฉพาะขิม และได้แบ่งปันความสุขนั้นผ่านการถ่ายทอดบทเพลงต่างๆ เผยแพร่ทางเว็บไซต์ด้วยรูปแบบที่แปลกใหม่ โดยประยุกต์ขิมซึ่งเป็นเครื่องดนตรีไทย เข้ากับดนตรีสากล เพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่ว่าใครก็สามารถจุดประกายความสุขและสิ่งดีๆ ให้แก่สังคมได้จริง จากการทำในสิ่งที่ตัวเองรัก

คุณสมคิด ชัยจิตวนิช
“คราว นี้เอง ภาพถ่ายจะได้ทำหน้าที่ของเขาให้ดีที่สุด” คือ คำพูดของช่างภาพใจดี สมคิด ชัยจิตวนิช ผู้ก่อตั้งโครงการ กรุณาแห่งรัก (Art Care) ด้วย ความเชื่อว่า ถ้าหัวใจของทุกคนมาหลอมรวมกัน ด้วยเป้าหมายเดียว คือช่วยเยียวยาเพื่อนผู้ที่อยู่ในห้วงทุกข์กายและใจ ทุกอย่างก็เป็นไปได้ไม่ยาก ... เป็นเวลากว่า 17 ปีที่สมคิดได้เดินทางเพื่อถ่ายทอดภาพชีวิตของคนธรรมดาที่ไม่ธรรมดาทั้งใน ประเทศไทยและอีกหลากหลายประเทศ เธอเป็นช่างภาพให้กับแผนกโฟกัส หนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น ก่อนจะมาเป็นช่างภาพแผนกเอาท์ลุค หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์อีกกว่า 12 ปี ปัจจุบันสมคิดสบายใจกับการทำงานที่เธอรักในฐานะช่างภาพอิสระ
คุณธวัชชัย แสงธรรมชัย

คุณ ธวัชชัย แสงธรรมชัย หรือ อู๋ (ทหารเอกแห่ง iCARE ) เขาคือชายธรรมดา ชาวกรุงเทพ ผู้มีชีวิตมนุษย์ออฟฟิศดั่งเช่นคนทั่วไป ได้ร่วมออกเดินทางไปกับเหล่านักอนุรักษ์ชื่อก้อง บนเรือธงแห่งการปกป้องสิ่งแวดล้อมของกรีนพีซ "Rainbow Warrior" ก่อนออกเดินทาง คำถามที่มีในใจเกี่ยวกับแรงบันดาลใจของพวกเขา ... ทำไมไม่ทำมาหากินเหมือนคนปกติ... นิวเคลียร์จำเป็นหรือไม่จำเป็นสำหรับประเทศไทย... แล้วเขาจะมาถ่ายทอดให้พวกเราฟัง กับ โครงการ Follow the Rainbow “ตามติดภารกิจนักรบสายรุ้ง”

คุณวิลาวัลย์ บุญจันทร์
ที่ ปรึกษาด้านประชาสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ดาวิน ชอยส์ และอาสาสมัครทำงานเพื่อสังคม(อิสระ) ... หลังจากใช้เวลาทุกวันพุธดูแลเด็กกำพร้าที่บ้านปากเกร็ดมากว่า 3 ปี ทำให้ค้นพบว่าความหมายของ "การให้และรักโดยปราศจากเงื่อนไข" ที่แปรเปลี่ยนเป็นความสุขที่คืนให้กับตนเองและสังคมได้อย่างเรียบง่าย เพราะเชื่อมั่นว่า งานอาสาฯที่ทำด้วยใจ ใคร ๆ ก็ทำได้ลุค แคสซาดี-ดอเรียน (Luke Cassady-Dorion)

ใน 33 ปี่ที่ผ่านมาชีวิตของลุควกไปวนมา จากบ้านที่เกิดในรัฐนิวยอร์ก ไปที่เมืองซานฟรานซิสโก แล้วในที่สุดก็มาที่กรุงเทพฯ เป็นชีวิตทีตามความสุขโดยเปิดโอกาสให้ความบังเอิญเข้ามาตลอด ตอนอายุสิบเก้าลุคเขียนหนังสือเล่มที่สองเกี่ยวกับการพัฒนาซอฟต์แวร์แล้วออก จากมหาวิทยาลัยเพื่อไปทำงานในวงการอินเทอร์เน็ต ลุคประสบความสำเร็จอย่างมากตอนเศรษฐกิจดีแล้วประสบทุกข์อย่างมากตอนเศรษฐกิจ ตกต่ำ พอตระหนักว่าจะไม่เจอความสุขกับหน้าจอคอมพิวเตอร์ ลุคได้หันมาทางโยคะ ซึ่งพาลุคไปอินเดียก่อนจากนั้นค่อยไปเมืองไทยต่อ และพอค้นพบถึงความชอบที่มีให้กับดินแดนใหม่นี้ ลุคจึงตัดสินใจกลับมาเรียนหนังสือ และได้ลงทะเบียนเรียนปริญญาตรีเอกวิชาภาษาไทยที่รามคำแหง ...

--

วันพุธที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน 2553 ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. ณ โรงแรม Swissotel Le Concorde ห้องบอลรูม ชั้น 2

บริษัท แอดวานซ์เทค คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด จะจัดงานสัมมนา “Advantech Solution Day 2010” ภายใต้หัวข้อ “Bring The Intelligent planet to your World” พร้อมด้วยการแสดงเทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ของระบบคอมพิวเตอร์เกรดอุตสาหกรรมล่าสุดจากผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์แอดวานซ์เทค (ADVANTECH) มากกว่า 2,000 รายการ เพื่อเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพในการควบคุม การบริหารจัดการในธุรกิจอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ โรงงานอุตสาหกรรม, ระบบการขนส่งมวลชน, ระบบการจัดการพลังงานและสิ่งแวดล้อม, การให้บริการการเงินและการธนาคาร ฯลฯ โดยจะจัดขึ้น ในวันพุธที่ 24 พฤศจิกายน 2553 ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. ณ โรงแรม Swissotel Le Concorde ห้องบอลรูม ชั้น 2 

          สำหรับรายการโปรแกรมสัมมนาที่จัดในงานมีดังนี้
          1. Solution Seminar นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง รวมถึงแนวโน้มความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีต่างๆ ในปี 2010 ของแอดวานซ์เทค และตัวอย่างประสบการณ์การนำไปใช้ในรูปแบบต่างๆ จากวิทยากรของบริษัทคู่ค้าชั้นนำในแต่ละภาคธุรกิจ
          2. Product Showcase พบกับนิทรรศการเทคโนโลยีของแอดวานซ์เทค และโซลูชั่นที่น่าสนใจของบริษัทคู่ค้าต่างๆ ในแต่ละบูธ
          3. Business Partner Matchmaking เปิดโอกาสให้ท่านได้พบปะแลกเปลี่ยนทัศนคติหรือสอบถามข้อมูลด้านเทคนิคกับผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงการแนะนำและให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิดในการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์กับธุรกิจต่างๆ

          ท่านที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานและสัมมนาฟรีได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์งาน ได้ที่ คุณชนัญชิตา มือถือ 083 233 1967 , คุณวีธิตรา มือถือ 087 680 8234 โทร 02 916 2592 หรือทาง email: ath.solutionday@gmail.com หรือลงทะเบียนผ่านทาง website ที่ http://www.advantech.com.tw/solutionday/default.aspx


--

วันที่ 14 ตุลาคม 2553 เวลา 08.30-12.00 น. ณ บริเวณหน้าหน่วยตรวจศัลยกรรมกระดูกและข้อ ชั้น 1 อาคาร ม.ร.ว.สุวพรรณ สนิทวงศ์

โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ กำหนดจัดงาน “ คนไทยห่างไกลข้อเสื่อม ” ในวันที่ 14 ตุลาคม 2553 เวลา 08.30-12.00 น. ณ บริเวณหน้าหน่วยตรวจศัลยกรรมกระดูกและข้อ ชั้น 1 อาคาร ม.ร.ว.สุวพรรณ สนิทวงศ์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสุขภาพผู้ป่วยตลอดจนบุคลากรโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
          โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ขอเชิญผู้สนใจเข้าร่วมงานตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หน่วยตรวจศัลยกรรมกระดูกและข้อ โทร. 0-2926-9313
          สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-9269310-1 นางสาวนภาพร บุญฤทธิ์ เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ


--

วันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2553

วันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553 ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น ดอนเมือง กรุงเทพฯ

สัมนาสาธารณะ : กลไกปฎิรูปสื่อภาคพลเมือง

วันพุธที่ 6  ตุลาคม 2553

จัดโดย คณะกรรมการพัฒนาส่งเสริมสิทธิเสรีภาพและความรับผิดชอบสื่อมวลชน ร่วมกับเครือข่ายปฎิรูปสื่อภาคพลเมือง



1. หลักการและเหตุผล  


วิกฤติ การณ์ของสังคมที่มีความซับซ้อนและสะสมมายาวนาน   ส่งผลให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมหลายด้าน  จนกระทั่งเกิดความขัดแย้งทางด้านความคิดและการเมืองอย่างรุนแรง ในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา   จึงมีกระแสการเรียกร้องให้มีการปฏิรูปประเทศไทยในทุกด้านอย่างจริงจัง  และ” การปฏิรูปสื่อ”เป็นเรื่องหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการ ให้เกิดผล  เพื่อให้สื่อได้ทำบทบาทหน้าที่อย่างเหมาะสมและร่วมนำพาประเทศชาติให้หลุดพ้น วิกฤติและก้าวไปข้างหน้า

ดังที่ทราบกันดีว่า  ในอดีตมีความพยายามในการผลักดันการปฏิรูปสื่อมาไม่ต่ำกว่าทศวรรษ  มีการปรับปรุงและพัฒนากฏหมายหลายฉบับ   มีความพยายามจัดการเรื่องโครงสร้าง  ความเป็นเจ้าของสื่อ การพัฒนามาตรฐานจรรยาบรรณ ในสื่อต่างๆ ฯลฯ   กระนั้นการปฏิรูปก็ยังไม่สำเร็จตามเป้าหมาย   เพราะการปฏิรูปสื่อนั้นต้องดำเนินการร่วมกันทุกฝ่าย  และในทุกกระบวนการ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน   ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการปฏิรูปและการพัฒนาที่ยั่งยืน

จะเห็น ว่าในระยะหลังๆ  ภาคประชาชนหลายกลุ่ม เริ่มเข้ามามีบทบาทในการเฝ้าระวังตรวจสอบสื่อ   แต่ยังสร้างการเปลี่ยนแปลงของสื่อได้ไม่มากนัก  เพราะมีอุปสรรคและช่องว่างหลายประการ อาทิ   ขาดการยอมรับจากองค์กรสื่อและองค์กรรัฐ  ไม่ทันต่อสถานการณ์ของสื่อที่มีความรวดเร็วสูง   มีลักษณะต่างคนต่างทำ ฯลฯ ที่สำคัญประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ตระหนักถึงผลกระทบของสื่อ และไม่เห็นความสำคัญของการมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังและตรวจสอบสื่อ

แนว โน้มในอนาคต เทคโนโลยีการสื่อสารจะมีการเติบโตและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สื่อรูปแบบใหม่ๆจะเข้าถึงชุมชนอย่างกว้างขวาง สื่อจะมีบทบาทมากยิ่งขึ้นในวิถีชีวิตของผู้คน    ทำอย่างไร ประชาชนจึงจะตระหนักในเรื่องนี้  มีการเรียนรู้เท่าทันสื่อ  มีบทบาทมากขึ้นในการตรวจสอบการทำหน้าที่ของสื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากกลไกตามกฏหมาย กลไกการตรวจสอบกันเองของสื่อฯแล้ว กลไกโดยภาคประชาชนจะต้องมีความเข้มแข็ง  เป็นระบบ มีความต่อเนื่องยั่งยืน    มีการเชื่อมโยงการทำงานจากคณะทำงานหลากหลายสาขา และตรวจสอบสื่อหลากหลายประเภท ที่สำคัญให้มีส่วนร่วมจากภาคประชาชนอย่างกว้างขวาง


2. วัตถุประสงค์

1. เพื่อระดมความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆในการสร้างกลไกเฝ้าระวังและตรวจสอบสื่อโดยการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคม

2. เพื่อระดมความคิดเห็นเรื่องการจัดตั้งองค์กรผู้บริโภคสื่อ  บทบาทหน้าที่ โครงสร้าง รูปแบบการทำงาน  

3. เพื่อเผยแพร่แนวคิดเรื่องการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมในการเฝ้าระวังและตรวจสอบสื่อ


3. รูปแบบการจัดงาน


เวทีสัมมนาระดมความคิดเห็นกลุ่มใหญ่และกลุ่มย่อย


4.  ผู้เข้าร่วมงาน

ประมาณ  200 คน ประกอบด้วยผู้แทนจากองค์กรและเครือข่ายที่ทำงานด้านการเฝ้าระวังสื่อ  การใช้สื่อเพื่อการเรียนรู้ ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค  นักวิชาการด้านนิเทศศาสตร์   สื่อของรัฐ สื่อภาคธุรกิจ สื่อภาคประชาชน   หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง  สมาคมวิชาชีพสื่อ ฯลฯ


5.  วัน เวลา สถานที่

วันพุธที่  6  ตุลาคม 2553 เวลา 09.00- 17.00 น.  ณ  โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น

ดอนเมือง กรุงเทพฯ


6.  ผู้รับผิดชอบโครงการ


คณะทำงานพัฒนากลไกการเฝ้าระวังการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน  ใน คณะกรรมการพัฒนาส่งเสริมสิทธิเสรีภาพและความรับผิดชอบสื่อมวลชน(คพส .) ร่วมกับเครือข่ายปฎิรูปสื่อภาคพลเมือง สนับสนุนโดย แผนงานสื่อสร้างสุขภาวะเยาวชน (สสย.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ


7.  ผลที่คาดว่าจะได้รับ


1. ข้อเสนอแนะในเรื่องยุทธศาสตร์การทำงานเฝ้าระวังสื่อฯ และกลไก /องค์กรผู้บริโภคสื่อ

2 . รูปแบบความร่วมมือและการเชื่อมโยงของเครือข่าย

3.  สื่อมวลชนช่วยเผยแพร่แนวคิดเรื่องการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคสื่อในการเฝ้าระวังการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนอย่างกว้างขวาง





 

สัมนาสาธารณะ : กลไกปฎิรูปสื่อภาคพลเมือง

วันพุธที่ 6  ตุลาคม 2553

จัดโดย คณะกรรมการพัฒนาส่งเสริมสิทธิเสรีภาพและความรับผิดชอบสื่อมวลชน(คพส.) ร่วมกับเครือข่ายปฎิรูปสื่อภาคพลเมือง

ณ  โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น ดอนเมือง กรุงเทพฯ



09.00- 09. 35 น.                                ลงทะเบียน  / ชมนิทรรศการ /  พร้อมรับประทานอาหารว่าง

09.35 - 09.45  น.               ชี้แจงวัตถุประสงค์ของงานพิธีเปิด

โดย คุณมานิจ สุขสมจิตร

ประธานคณะกรรมการพัฒนาส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน( คพส.)       

09.45 - 09.50 น.                วิดีทัศน์  สื่อไทยใน 5  ปี ข้างหน้า

09.50 - 12.00 น.               อภิปราย กลไกภาคประชาสังคมในการเฝ้าระวังและตรวจสอบสื่อ

ประเด็น 1. กลไกตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย  กฎระเบียบ  และจรรยาวิชาชีพ

2. บทเรียนของการขับเคลื่อน กลไกภาคประชาสังคม

3. รูปแบบและกลไกที่อยากให้มีในสังคมไทย

4. การรู้เท่าทันสื่อ

วิทยากร : ดร. สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ รองประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย

คุณสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค

คุณวสันต์ ภัยหลีกลี้ ประธานสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย

ดร. เอื้อจิต วิโรจน์ไตรรัตน์  ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาสื่อภาคประชาชน

ผู้ดำเนินรายการ :  คุณสุวรรณา จิตประภัสสร์ กรรมการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค

เปิดอภิปรายแลกเปลี่ยนและสรุป  

12.00-13.00 น.                พักรับประทานอาหารกลางวัน

13.00-15.00 น.                   สัมมนากลุ่มย่อย “กลไกภาคประชาสังคมในการเฝ้าระวังและตรวจสอบสื่อ”

ห้องที่ 1 กลไกการสร้างองค์กรและเครือข่ายผู้บริโภคสื่อ

ห้องที่ 2 กลไกการพัฒนากฎหมายและจรรยาวิชาชีพสื่อ

ห้องที่ 3 กลไกการคุ้มครองผู้บริโภคและตรวจสอบสื่อ

ห้องที่ 4 กลไกการรู้เท่าทันสื่อ (Media Literacy)

ห้องที่ 5 กลไกการเฝ้าระวังสื่อ (Media Monitor)

ห้องที่ 6 กลไกการรณรงค์ทางสังคม

15.00 - 15.20 น.                                พักรับประทานอาหารว่าง

15.20 - 16.20 น.                                นำเสนอผลการประชุมกลุ่มๆละ 10 นาที

16.20 - 17.00 น.                                อภิปราย และปิดสัมมนา

โดย รศ. จุมพล รอดคำดี

ประธานคณะทำงานพัฒนากลไกการเฝ้าระวังการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน

รายละเอียดห้องสัมนากลุ่มย่อย

“กลไกภาคประชาสังคมในการเฝ้าระวังและตรวจสอบสื่อ”

เวลา 13.00-15.00 น.

ห้องที่ 1 กลไกการสร้างองค์กรและเครือข่ายผู้บริโภคสื่อ

ประธานกลุ่ม : คุณเข็มพร วิรุณราพันธ์ ผู้จัดการแผนงานสื่อสร้างสุขภาวะเยาวชน

วิทยากรหลัก : ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ รองประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย

ผู้บันทึกสาระ : คุณโสภิต หวังวัฒนา  สถานีทีวีไทย *

ผู้เข้าร่วมหลัก : สภาผู้ชม-ผู้ฟัง / สถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม / เครือข่าย

แผนงานสื่อสร้างสุขภาวะเยาวชน / คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ/    

เครือข่ายครอบครัวเฝ้าระวังและสร้างสรรค์สื่อ

ผู้รับผิดชอบห้องย่อย : กลุ่ม WE ARE HAPPY

ห้องที่ 2 กลไกการพัฒนากฎหมายและจรรยาวิชาชีพสื่อ

ประธานกลุ่ม : คุณชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ผู้อำนวยการสถาบันอิสรา

วิทยากรหลัก : คุณสุภิญญา กลางณรงค์  คณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ   

อ.อิทธิพล ปรีติประสงค์ สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว ม.มหิดล

คุณประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม *

ผู้บันทึกสาระ : คุณสุเทพ วิไลเลิศ  คณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ *

ผู้เข้าร่วมหลัก : เครือข่ายพลเมืองเน็ต / องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน / กรมประชาสัมพันธ์ / กระทรวง

วัฒนธรรม / เครือข่ายครอบครัวเฝ้าระวังและสร้างสรรค์สื่อ / สำนักงาน

คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค

ผู้รับผิดชอบห้องย่อย : มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก

ห้องที่ 3
กลไกการคุ้มครองผู้บริโภคและตรวจสอบสื่อ

ประธานกลุ่ม : คุณวันชัย วงศ์มีชัย คณะทำงานฯ คพส.

วิทยากรหลัก : คุณอิฐบูรณ์  อ้นวงษา  มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค

ผู้บันทึกสาระ : คุณเสาวนีย์ ฉ่ำเฉลียว มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค

ผู้ เข้าร่วมหลัก : กลุ่มทนายอาสา มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค / สมาคมเคเบิ้ลทีวี / องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน /  เครือข่ายครอบครัวเฝ้าระวังและสร้างสรรค์สื่อ / สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค / กลุ่มตาสัปปะรด / นักวิชาการ /สถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม /คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ

ผู้รับผิดชอบห้องย่อย : มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค

ห้องที่ 4
กลไกการรู้เท่าทันสื่อ

ประธานกลุ่ม : คุณนิรันดร์ เยาวภาว์ คณะทำงานฯ คพส.

วิทยากรหลัก : ดร. จิรพร วิทยศักดิ์พันธุ์ คณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่*

ผู้บันทึกสาระ : อ.อังคณา พรหมรักษา*

ผู้ เข้าร่วมหลัก : เครือข่ายครอบครัวเฝ้าระวังและสร้างสรรค์สื่อ / เครือข่าย Media Monitor / เครือข่ายแผนงานสื่อสร้างสุขภาวะเยาวชน /เครือข่ายนักวิชาการ

ผู้รับผิดชอบห้องย่อย : เครือข่ายครอบครัวเฝ้าระวังและสร้างสรรค์สื่อ

ห้องที่ 5 กลไกการเฝ้าระวังสื่อ

ประธานกลุ่ม : คุณสุวรรณา จิตประภัสสร์ กรรมการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค

วิทยากรหลัก : ดร. เอื้อจิต วิโรจน์ไตรรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาสื่อภาคประชาชน

ผู้บันทึกสาระ : คุณธาม เชื้อสถาปนศิริ  

ผู้จัดการกลุ่มงานวิชาการ โครงการศึกษาและเฝ้าระวังสื่อเพื่อสุขภาวะของสังคม

ผู้ เข้าร่วมหลัก : เครือข่ายครอบครัวเฝ้าระวังและสร้างสรรค์สื่อ / สถาบันวิชาการ / กลุ่มที่ทำโพลล์ / ศูนย์วิจัยทางวิชาการและด้านสื่อ / กระทรวงวัฒนธรรม / กลุ่มอย.น้อย / สภาเด็กและเยาวชน / สภาผู้ชม-ผู้ฟัง / โครงการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ (คคส.)

ผู้รับผิดชอบห้องย่อย : โครงการศึกษาและเฝ้าระวังสื่อเพื่อสุขภาวะของสังคม

ห้องที่ 6 กลไกการรณรงค์ทางสังคม

ประธานกลุ่ม : อ.นวลน้อย ตรีรัตน์ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย*

วิทยากรหลัก : รศ.ดร.วิลาสินี อดุลยานนท์ ผู้อำนวยการสำนักรณรงค์และสื่อสารสาธารณะ

เพื่อสังคม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ

ผู้บันทึกสาระ :  คุณโกศล สงเนียม  คณะทำงานฯ คพส.

ผู้ เข้าร่วมหลัก : เครือข่ายวิทยุชุมชน / เครือข่ายองค์กรงดเหล้า /  เครือข่ายพลังบวก / เครือข่ายครอบครัวเฝ้าระวังและสร้างสรรค์สื่อ/ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ / เครือข่ายศิลปิน / คณะทำงานปฎิรูปสื่อ จากกรรมการสมัชชาปฏิรูป

ผู้รับผิดชอบห้องย่อย : มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก


หมายเหตุ : * รายชื่อวิทยากรอยู่ในช่วงประสานงาน

--

วันพุธที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2553

วันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553 เวลา 13.30 - 16.30 น. ณ ห้อง F337 ชั้น 3 อาคารเอนกประสงค์ 2 ใกล้ประตูท่าพระอาทิตย์

Sustainability” ส่วนผสมใหม่ในการกำหนดกลยุทธ์ทางธุรกิจ
ตอนที่ 2 “รู้จักเครื่องมือสำหรับใช้วางแผนปฏิบัติการกลยุทธ์ 3 ผสาน”


วันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553 เวลา 13.30
– 16.30 น. ณ ห้อง F337 ชั้น 3 อาคารเอนกประสงค์ 2 ใกล้ประตูท่าพระอาทิตย์ (ดาวน์โหลดแผนที่) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
ผู้ที่พลาดงานเสวนาตอนที่ 1 สามารถเข้าฟังได้โดยไม่เสียอรรถรส 
(บรรยายภาษาอังกฤษสลับการสรุปความภาษาไทย)
 

วิทยากร
1.       Mr. Robert Steele Director/ SystainabilityAsia, Senior Associate/ AtKissonGroup
2.       อาจารย์ ดร. พีรเศรษฐ์ ชมพูมิ่ง อาจารย์ประจาสาขาวิชาบริหารทรัพยากรมนุษย์และองค์การ คณะพาณิชย์ฯ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


ผู้บริหารที่ต้องการดำเนินธุรกิจโดยนำเอาแนวคิด Sustainablity เข้ามาประยุกต์ใช้แต่ไม่รู้ว่าจะวางแผนอย่างไร งานเสวนาครั้งนี้มีคำตอบให้

ในการสัมมนาครั้งนี้เราจะแนะนำให้รู้จักกับ AtKisson Accelerator ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการสนับสนุนการฝึกอบรม การวางแผน การประเมินและตัดสินใจเพื่อนำเอา Sustainablity มาผสมผสานในการทำธุรกิจ เครื่องมือนี้ได้ผ่านการทดลองการใช้งานในองค์กรต่างๆทั้งภาคธุรกิจ หน่วยงานรัฐบาล ชุมชน โรงเรียน มหาวิทยาลัย และองค์กรขนาดเล็ก เครื่องมือ Accelerator ได้ พิสูจน์ให้เห็นถึงการใช้งานได้ดีในต่างวัฒนธรรมและต่างประเภทขององค์กร ตั้งแต่ บริษัทในอินโดนีเซีย ญี่ปุ่น ยุโรปและสหรัฐอเมริกา จนถึง ชุมชน เทศบาลท้องถิ่น รัฐบาล โรงเรียนและมหาวิทยาลัยในยุโรป อเมริกา แอฟริกา มาเลเซีย ออสเตรเลีย ไทยและ สหราชอาณาจักร เครื่องมือนี้สามารถใช้ร่วมกับ GRI (Global Reporting Initiative) หรือ Balanced Scorecard  การสัมมนาในครั้งนี้ผู้เข้าอบรมจะได้เรียนรู้ AtKisson Accelerator ในเบื้องต้นจากการบรรยายและทำ workshop เพื่อช่วยให้การเดินทางเริ่มต้นง่ายขึ้น สำหรับธุรกิจที่ได้เริ่มออกสตาร์ทมาแล้วก็จะเป็นเครื่องนำทางให้ท่านดำเนินการต่อจนประสบผลสำเร็จ

 

สิ่งที่ผู้เข้าร่วมสัมมนาจะได้รับ
1.      เข้าใจทฤษฏีและแนวคิดพื้นฐานที่ช่วยอธิบายว่าเหตุใดการนำเอาการพัฒนาอย่างยั่งยืนมาใช้ในธุรกิจจึงก่อให้เกิดผลดีต่อธุรกิจในระยะยาว
2.      รู้จักเครื่องมือสำคัญที่ในการจุดประกายความคิดในการสร้างกลยุทธ์ทางธุรกิจบนพื้นฐานของการพัฒนาอย่างยั่งยืน
3.      บริหารความคิดหาวิธีการนำเครื่องมือไปประยุกต์ใช้จริงในธุรกิจของท่าน
กำหนดการ
13.00-13.30 น.
ลงทะเบียน
13.30-13.40 น.
แนะนำภาพรวมของกิจกรรม
13.40-14.20 น.
Session 1: Doing Sustainability . . . challenges, steps, tools, and methods
นำเสนอทฤษฏีและแนวคิดที่เป็นพื้นฐานด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนทบทวนกรอบแนวคิด Sustainability เช่น  Triple Bottom Line (TBL), The Natural Step (TNS) and Global Reporting Initiative (GRI) ตลอดจนความท้าทาย ขั้นตอน เครื่องมือ และวิธีการ
14.20-15.15 น.
Session 2: The Sustainability Compass (กิจกรรมกลุ่มย่อย)
แนะนำให้รู้จัก Sustainability Compass เครื่องมือนำทางที่ทำให้เห็นภาพการเชื่อมโยงระหว่างตัวปัญหาที่มาจากทุกสาร ทิศคือ N=Nature E= Economy W=Wellbeing และ S=  Society อันอาจส่งผลต่อการดำเนินงานในด้านต่างๆเช่น การออกแบบผลิตภัณฑ์ การผลิต การตลาด การลำเลียงและการใช้วัตถุดิบ ความต้องการของลูกค้า การจัดจำหน่าย การลงทุนเพิ่ม ฯลฯ   มีการทำกิจกรรมกลุ่มเพื่อให้ทุกคนได้ทดลองใช้เครื่องมือเพื่อฝึกฝนให้เห็น ปัญหา ผลกระทบของปัญหาเหล่านั้น คิดหาสาเหตุที่ก่อให้เกิดปัญหา และทำการเปลี่ยนแปลงเพื่อหาทางป้องกันปัญหา
15.15-15.30 น.
Coffee Break บริการที่ห้องอาหารโดมพระจันทร์ ชั้น 2
15.30-16.00 น.
Session 3: An overview of  ISIS Sustainability ACCELERATOR Tools
แนะนำให้รู้จัก ISIS Sustainability Accelerator เครื่องมือที่ช่วยให้เกิดการเรียนรู้ เข้าใจปัญหา รู้ทางออก สามารถกำหนดกลยุทธ์และเร่งลงมือเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่าง ยั่งยืน
16.00-16.15 น.
สรุปประเด็นสำคัญจากการเสวนา
16.15-16.30 น.
ถาม-ตอบ


--

ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก